ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สองอาจารย์ ม.เชียงใหม่ ผู้ต้องหาคดี “มหาวิทยาลัยไม่ใช่ค่ายทหาร” เข้ายื่นให้ปากคำเป็นลายลักษณ์อักษรต่อพนักงานสอบสวน ยืนยันปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมแถลงการณ์แสดงความชอบธรรม ย้ำทำหน้าที่ในฐานะนักวิชาการ ไม่มีเนื้อหายุยงปลุกปั่น และทุกการกระทำเป็นไปตามสิทธิเสรีภาพในรัฐธรรมนูญ เรียกร้องมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง
วันนี้ (24 ธ.ค. 58) ที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายอรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และนายสมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สองผู้ต้องหาที่ถูกกล่าวหาในข้อหาร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศหรือคำสั่งหัวหน้า คสช. จากกรณีที่เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 58 ได้ร่วมกันแถลงการณ์เรื่อง “มหาวิทยาลัยไม่ใช่ค่ายทหาร” ที่โรงแรมไอบิส สไตล์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเข้ายื่นเอกสารให้ปากคำเป็นลายลักษณ์อักษรในคดีดังกล่าว โดยปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ หลังการยื่นเอกสารให้ปากคำเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว นายอรรถจักร และนายสมชาย ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ยืนยันปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยระบุเหตุผลและความชอบธรรมว่า การออกแถลงการณ์ดังกล่าวไม่ใช่ความตั้งใจที่จะมารวมกันและร่วมกันออกแถลงการณ์เป็นการเฉพาะเจาะจงต่อรัฐบาลแต่อย่างใด รวมทั้งเมื่อพิจารณารายละเอียดแถลงการณ์แล้วจะพบว่าไม่มีจุดใดที่เป็นการยุยง, ปลุกปั่น หรือกล่าวว่าร้ายใดๆ อีกทั้งการแถลงการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นความสำคัญของเสรีภาพทางวิชาการและความเชื่อมโยงกับงานวิจัยด้วย
โดยที่ยืนยันว่าการแถลงการณ์นั้นเป็นการใช้เสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญคุ้มครองไว้ และไม่มีความผิดตามที่ถูกกล่าวหา เป็นเสรีภาพในการแสดงออกที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองแห่งสหประชาชาติ ที่ประเทศไทยได้ลงนามเป็นภาคที่มีหน้าที่ต้องปฏิบัติ
นอกจากนี้ หากพิจารณาเปรียบเทียบกับความหมายของการชุมนุมสาธารณะที่ปรากฏในต่างประเทศก็จะพบว่าความหมายนั้นมีสาระสำคัญ คือ ต้องเป็นการชุมนุมในพื้นที่สาธารณะและเปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถเข้าร่วมได้อย่างกว้างขวาง อันมีความแตกต่างอย่างสำคัญกับแถลงการณ์ของเครือข่ายคณาจารย์ จึงขอให้พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดีผู้ต้องหาทั้งสองให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นภาคี
