ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ว่าฯ ระดมทุกหน่วยงานเร่งช่วยเหลือเยียวยากรณีรถบัสคณะนักท่องเที่ยวมาเลเซียประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต 14 ศพ บาดเจ็บ 11 ราย สั่งอำนวยความสะดวกครอบครัวทุกเรื่องจนกว่าจะจัดการธุระเสร็จและเดินทางกลับ ขณะที่ขนส่งเชียงใหม่เชื่อสาเหตุมาจากความประมาทส่วนตัวของคนขับรถ เตรียมยึดใบขับขี่ตลอดชีวิต
บ่ายวันนี้ (21 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักทางหลวงที่ 1 เชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมศูนย์เฉพาะกิจผู้ประสบภัยกรณีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียประสบอุบัติเหตุทางถนนอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ, ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่, ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่, ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ รวมทั้งตัวแทนจากสถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีรถบัสนักท่องเที่ยวประสบอุบัติเหตุบนถนนเชียงใหม่-เชียงราย บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 42-43 บ้านปางแฟน ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ช่วงเที่ยงวานนี้ (20 ธ.ค. 58) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 คน ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวมาเลเซีย 13 คน และไกด์คนไทย 1 คน ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 11 คน รวมนายสมพร บัวหลวง อายุ 58 ปี คนขับรถคนที่เกิดเหตุด้วย
ทั้งนี้ จากการประชุมเบื้องต้นสรุปว่าทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกในทุกด้านอย่างเต็มที่แก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ ตามข้อสั่งการของนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยในส่วนของการตรวจพิสูจน์และยืนยันเอกลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิตทางแผนกนิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ กำลังเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จทั้งหมดภายในวันนี้ (21 ธ.ค.) เหลือเพียงรอให้ญาติและครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตเดินทางมาถึงเชียงใหม่แล้วทำการตรวจดีเอ็นเอเพื่อยืนยันเท่านั้น รวมทั้งออกเอกสารรับรองการเสียชีวิตสำหรับใช้ในการเคลื่อนย้ายศพกลับประเทศ ทุกขั้นตอนจะมีการระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกให้ทุกขั้นตอนเพื่อลดความสบสนยุ่งยากและเกิดความรวดเร็วที่สุด
สำหรับนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่ได้รับบาดเจ็บซึ่งนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลต่างๆ จะดูแลให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ รวมทั้งในส่วนของญาติและครอบครัวที่จะเดินทางมาเยี่ยม ซึ่งในช่วงเย็นและค่ำวันนี้ (21 ธ.ค.) ทั้งญาติของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายจะเดินทางมาถึงเชียงใหม่แล้วเพื่อเยี่ยมผู้บาดเจ็บและดูศพผู้เสียชีวิต
โดยเบื้องต้นได้มีการประสานอำนวยความสะดวกไว้ให้ทั้งหมด ทั้งการเดินทาง ที่พัก และล่ามแปลภาษา รวมทั้งอื่นๆ ที่จำเป็นจนกว่าจะจัดการธุระต่างๆ เสร็จ นอกจากนี้ในส่วนของประกันภัยที่จะต้องมีการจ่ายเงินชดเชยให้ผู้เสียชีวิตรวมเบื้องต้นรายละ 1.6 ล้านบาท ก็จะมีการเร่งรัดอำนวยความสะดวกให้มีการจ่ายอย่างรวดเร็วที่สุด รวมทั้งในส่วนของการรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บด้วย
ด้านนายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นเชื่อว่าอุบัติเหตุครั้งนี้น่าจะมีสาเหตุมาจากความประมาทส่วนตัวของคนขับรถ เนื่องจากการตรวจที่เกิดเหตุไม่พบว่ามีร่องรอยการเบรค ตามที่คนขับรถกล่าวอ้างว่าเบรกรถไม่อยู่ และรถบัสคันที่เกิดเหตุครั้งนี้ก็เพิ่งได้รับการตรวจสภาพไปเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา พบว่าอยู่ในสภาพที่ดีพร้อมใช้งาน ส่วนประเด็นเกี่ยวกับความชำนาญเส้นทางนั้น เป็นไปได้น้อย เพราะจากประวัติการทำการทำงานของคนขับรถคัน พบว่ามีประสบการณ์มานานจากการเป็นพนักงานขับรถในหลายเส้นทางของภาคเหนือตอนบน
ทั้งนี้ ในส่วนของการดำเนินคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป ขณะที่ในส่วนกรมขนส่งทางบกนั้นเบื้องต้นมองว่าหากคนขับมีความผิดชัดเจนก็คงจะต้องทำประวัติและเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่รถยนต์สาธารณะไปตลอดชีวิต
ขณะที่ช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ นายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายไพรินทร์ ลิ่มเจริญ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งนางวรรณสิริ โมรากุล รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงงใหม่ เพื่อตรวจดูการทำงานของศูนย์ประสานงานอำนวยความสะดวกแก่ครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิตที่เดินทางมารับศพ และเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ
โดยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ระบุว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจที่ประกอบด้วยหน่วยงานี่เกี่ยวข้องขึ้นมา เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอย่างเต็มที่ จนกว่าการดำเนินการต่างๆ จะเสร็จเรียบร้อยจนกระทั่งส่งศพผู้เสียชีวิต รวมทั้งญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทั้งหมดกลับบ้าน ตลอดจนดำเนินการให้มีการจ่ายเงินสินไหมทดแทนให้อย่างครบถ้วน ส่วนการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลผู้เสียชีวิตจะมีการดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วที่สุด เช่นเดียวกับการดำเนินคดีตามกฎหมายที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งดำเนินการ