บุรีรัมย์- เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา จ.บุรีรัมย์ เรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือพยุงราคายางที่ตกต่ำ จากปัจจุบันยางแผ่นเหลือเพียง กก.ละ 40 บาท ยางก้อนถ้วย 17 บาท ขายไม่คุ้มทุนทั้งต้องแบกรับภาระทั้งค่าดูแลรักษา ค่าจ้างกรีด และหวั่นไม่มีเงินชำระหนี้สิน ธ.ก.ส. หลายรายต้องตัดโค่นต้นยางทิ้งปลูกพืชชนิดอื่นแทน
วันนี้ (21 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา อ.โนนสุวรรณ และ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ ภายหลังประสบปัญหาราคายางพาราตกต่ำที่สุดในรอบหลายปี โดยปัจจุบันราคายางแผ่นดิบอยู่ที่กิโลกรัมละ 37-40 บาท และยางก้อนถ้วยอยู่ที่กิโลกรัมละ 17 บาท สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรเนื่องจากไม่อยู่ที่จุดคุ้มทุน เพราะเกษตรกรต้องแบกรับภาระทั้งค่าดูแลรักษา ค่าจ้างกรีด ทั้งเกรงว่าจะไม่มีเงินชำระหนี้และดอกเบี้ยให้กับ ธ.ก.ส.ที่ไปกู้ยืมมาลงทุนปลูกยางพาราคาอีกด้วย
จากกรณีดังกล่าวทำให้เกษตรกรต้องตัดสินใจตัดโค่นต้นยางพาราทิ้ง หันไปปลูกพืชชนิดอื่นแทน เช่น มันสำปะหลัง และไม้ผลชนิดต่างๆ จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลได้หาแนวทางช่วยเหลือ โดยการพยุงราคายาง โดยให้ยางแผ่นอยู่ที่ราคากิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 50 บาท และยางก้อนถ้วยกิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 25-30 บาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถขายยางได้ที่จุดคุ้มทุน
ทั้งนี้ นายสวาท จำปาสา ตัวแทนเกษตรกรยังได้ยื่นหนังสือผ่านทางอำเภอถึงรัฐบาลได้หาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราที่ประสบปัญหาราคาตกต่ำในขณะนี้ด้วย
นางสมปอง หลายเหล่า อายุ 45 ปี เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ต.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ กล่าวว่า ขณะนี้ประสบปัญหาราคายางตกต่ำในที่สุดในรอบหลายปี โดยเฉพาะยางก้อนถ้วยเหลือเพียงกิโลกรัมละ 17 บาทเท่านั้น ซึ่งไม่อยู่ที่จุดคุ้มทุน จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือพยุงราคายางพาราให้ยางแผ่นไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 50 บาท และยางก้อนถ้วยไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 25-30 บาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถอยู่รอดได้