อุบลราชธานี - ราคายางพาราเดือนธันวาคมตกอีกกว่า 2 บาท ทำชาวสวนยางย่ำแย่ บางรายต้องหยุดกรีดเพราะทนขาดทุนไม่ไหว ขณะสหกรณ์ชาวสวนยางดิ้นหาช่องทางเพิ่มรายได้ ทั้งขายตรงผ่านระบบออนไลน์ ขอความสนับสนุนตั้งโรงงานแปรรูปยางพาราเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต นำน้ำเสียจากการแปรรูปยางมาทำเป็นปุ๋ยหมัก วอนรัฐเร่งจ่ายเงินชดเชยค่าการผลิตที่ยังล่าช้าของปี 2557 และปี 2558
น.ส.ขวัญใจ ภาระเวช ประธานสหกรณ์กองทุนชาวสวนยางภูด่านใหญ่จำกัด ตั้งอยู่ อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี กล่าวถึงราคายางแผ่นชั้น 3 ความชื้นไม่เกิน 5% มีราคาขายกิโลกรัมละ 38 บาท ส่วนราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 กิโลกรัมละ 40 บาท
ส่วนน้ำยางก้นถ้วยกิโลกรัมละ 17 บาท โดยเป็นราคาขายตรงผ่านเว็บไซต์กับโรงงานที่รับซื้อโดยตรง เพราะถ้าขายในพื้นที่จะมีราคาต่ำกว่าอีกกิโลกรัมละ 2 บาท โดยราคายางพาราเดือนธันวาคมนี้มีการปรับตัวลดลงจากเดิมเฉลี่ยกิโลกรัมละ 2 บาท ทำให้ชาวสวนยางบางส่วนต้องหยุดกรีดยางเพราะไม่คุ้มกับต้นทุนและค่าแรงงาน ซึ่งสูงเกือบกิโลกรัมละ 60 บาท
ขณะที่ยางกรีดก็ต้องปรับตัว โดยสหกรณ์ของตนมีสมาชิก 138 ราย มีพื้นที่ปลูกยางพารากว่า 4,300 ไร่ ใช้วิธีขายตรงกับโรงงานเพื่อให้ได้ราคาขายมากกว่าราคารับซื้อในพื้นที่อีกกิโลกรัมละ 2 บาท
อนาคตที่กำลังผลักดันคือ การสร้างโรงงานแปรรูปยางเพื่อเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอโครงการกับกองทุนสงเคราะห์ชาวสวนยาง นอกจากนี้ยังมีการคิดนำน้ำเสียที่มาจากกระบวนการผลิตยางแผ่นมาทำเป็นปุ๋ยจำหน่ายเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรอีกทางหนึ่ง
ขณะนี้ต้องการให้ภาครัฐเข้ามาช่วยกรณีลงทะเบียนชาวสวนยางเพื่อรับเงินชดเชยการผลิตไร่ละ 1,500 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ต่อราย ซึ่งกระบวนการยังล่าช้า ต้องรอไปหลังปีใหม่ถึงจะได้รับ รวมทั้งยังมีเงินช่วยเหลือตกค้างจากปีการผลิต 2557 อยู่ที่สำนักงบประมาณ โดยจังหวัดอุบลราชธานีมีเกษตรกรไม่ได้รับเงินอยู่กว่า 3,000 ราย
จึงขอให้รัฐบาลช่วยเร่งรัดให้มีการจ่ายเงินคงค้างและเงินชดเชยใหม่ให้เร็วขึ้น เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางไม่ให้ย่ำแย่ไปกว่านี้