ลำปาง - ผบช.ภ.5 พร้อมแม่ทัพภาค 3 ผู้บัญชาการ มทบ.32 นำตำรวจลำปาง-แพร่ แถลงโชว์ผลงานหลังสกัดจับหนุ่มลำพูน รับจ้างน้องเมียซิ่งเก๋งขนยาบ้าล็อตใหญ่ถึง 5 แสนเม็ดได้ ขณะที่ ตร.เมืองแพร่ รวบแก๊งฤาษียุกชุดลวงซื้องาช้าง ก่อนให้คนปลอมตัวเป็น ตร.บุกตรวจยึด
พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ภาณุเดช กาญจนอลงกรณ์ ผบก.ภ.แพร่ พ.ต.สุเทพ ฐาปนวรกุล พ.ต.สิโรฒม์ ภาคพิชเจริญ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดลำปาง แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อค่ำวานนี้ (20 ธ.ค.) โดยมี พล.ท.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล แม่ทัพภาคที่ 3 พล.ต.วิจักษ์ ศิริบรรสพ ผู้บัญชาการ มทบ.32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรีลำปาง ร่วมด้วย
หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่พริก สามารถจับกุม นายเกษม เหล่าอ่อน อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139/4 ม.6 ต.มะเขือแจ้ อ.เมืองลำพูน พร้อมของกลางยาบ้า 500,000 เม็ด รถยนต์โตโยต้า วีออส สีดำ ทะเบียน กจ 2518 ลำพูน โทรศัพท์มือถือซัมซุง 1 เครื่อง และเงินสด 15,000 บาท
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่พริก ทราบว่า จะมีการลักลอบขนยาบ้าจะหลบด่านตรวจ จึงได้ใช้รถยนต์ออกตรวจตามเส้นทางถนนสายโรงพยาบาลแม่พริก จนกระทั่งเวลาประมาณ 00.30 น. วันที่ 19 ธ.ค. ได้มีรถยนต์คันดังกล่าวขับมาจาก อ.แม่พริก ข้ามสะพานแม่น้ำวัง และเลี้ยวขวาไปทางบ้านดงสัก มุ่งหน้าไปยังบ้านแม่ตั๋ง ม.5 ต.พระบาทวังตวง ซึ่งจะมีทางเชื่อมสู่ถนนพหลโยธิน หลังด่านตรวจแม่พริก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จัดกำลังด่านตรวจตั้งจุดสกัดที่บริเวณใกล้ปากทางเชื่อมถนนพหลโยธิน
ต่อมา พบ นายเกษม เหล่าอ่อน อายุ 47 ปี ขับรถของกลางมาเพียงคนเดียว จึงได้ทำการเข้าตรวจค้น พบยาบ้า 500,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่รวมกันที่ใต้ฝากระโปรงรถด้านหลัง โดยผู้ต้องหาให้การว่า นายจะลา ซึ่งเป็นน้องภรรยาของตนได้จ้างให้ขนยาบ้าจากจังหวัดเชียงใหม่ ไปส่งที่ศาลาข้างทางถนนพหลโยธิน ก่อนถึงปากทางเขื่อนภูมิพล ใกล้ปั๊ม ปตท. และจะมีคนขับรถมารับต่ออีกทอดหนึ่ง หากทำงานสำเร็จจะได้รับค่าจ้าง 500,000 บาท
ในโอกาสเดียวกันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้นำตัวผู้ต้องหา 5 ราย ที่ก่อคดีร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นงาช้าง 8 ชิ้น มาแถลงข่าวด้วย โดยเหตุเกิดที่โรงแรมสูงเม่นโฮเต็ล อ.สูงเม่น จังหวัดแพร่ และต่อเนื่องถึงถนนสายเด่นชัย-อุตรดิตถ์ บริเวณประตูสู่ล้านนา ต.แม่จ๊ะ อ.เด่นชัย จ.แพร่
โดยผู้ต้องหาคือ นายนงคาร คุ้มเวช อายุ 53 ปี นายชำนาญ อินทร์ใจ อายุ 49 ปี เป็นชาวจังหวัดแพร่ นายศิววิจักษณ์ นรรัตน์ อายุ 57 ปี ชาวนครสวรรค์ เป็นผู้ต้องหาคนที่ 1 ซึ่งเป็นฤาษี ได้ติดต่อขอซื้องาช้างจากผู้เสียหาย 2 ราย
หลังจากติดต่อกันเสร็จแล้ว นายศิววิจักษณ์ ได้พาผู้เสียหายนำงาช้างไปให้ผู้ซื้อดูที่โรงแรมสูงเม่นโฮเต็ล เมื่อไปถึงได้มีชายแต่งเครื่องแบบตำรวจ 1 คน และชายอีก 3 คน (ซึ่งเป็นผู้ต้องทั้งหมด) เดินจู่โจมเข้ามาในห้องพัก อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกรุงเทพมหานคร มาล่อซื้องาช้าง ใส่กุญแจมือนายชำนาญ และนายนงคาร ล็อกติดกัน และใส่กุญแจมือนายศิววิจักษ์ นำตัวขึ้นรถยนต์ขับมุ่งหน้าไปกรุงเทพมหานคร
เมื่อไปถึงสามแยกปากจั๊วะ ผู้เสียหายสงสัยว่าไม่ใช่ตำรวจ จึงเปิดกระจกรถส่งเสียงขอความช่วยเหลือ ผู้ต้องหาจึงขับรถเข้าจอดข้างทาง ผู้เสียหายจึงฉวยโอกาสวิ่งหลบหนีเข้าไปขอความช่วยเหลือที่ด่านกักกันสัตว์เด่นชัย และแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบจนสามารถออกจับกุมตัวได้ในที่สุด
จากการสอบถามผู้ต้องหาที่ 1 คือ นายศิววิจักษณ์ รับว่า เป็นคนกลางติดต่อซื้อขายงาช้าง ส่วนผู้ต้องหาที่ 2, 3, 4 และ 5 ยอมรับว่า นายศิววิจักษณ์ เป็นผู้วางแผนล่อผู้เสียหายนำงาช้างมาให้พวกตนที่ปลอมตัวเป็นตำรวจ ตรวจยึดไปให้นายศิววิจักษณ์ เพื่อนำไปสร้างพระเครื่องจำหน่าย และจะจ่ายค่าจ้างให้ในภายหลัง
