ศูนย์ข่าวศรีราชา - รองผู้ว่าฯ ชลบุรี จี้หน่วยงานเกี่ยวข้องในพื้นที่แจ้งความเอาผิดเพิ่มเรือประมงสัญชาติเวียดนามรุกล้ำน่านน้ำไทย หลังพบมีเด็ก 10-12 ปี อยู่บนเรือ เผยเข้าข่ายการค้ามนุษย์ ล่าสุด สนง.สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดชลบุรี แจ้งความเอาผิดในเบื้องต้นแล้ว ขณะเดียวกัน ยังจี้ทุกภาคส่วนดูแลปัญหาการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว และการใช้แรงงานต่างด้าวในพื้นที่ให้ถูกต้องตามประเภท
วันนี้ (17 ธ.ค.) นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานการประชุมคณะทำงานศูนย์บริหารจัดการแรงงานประมงจังหวัดชลบุรี ซึ่งจัดขึ้นที่ห้องประชุม 32 ปี สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดชลบุรี เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การดำเนินงานของศูนย์บริหารจัดการแรงงานประมงจังหวัดชลบุรี การดำเนินงานของศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก (Pipo) การตรวจสอบสถานประกอบการกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ การดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ ตามคำสั่ง และผลการจับกุมเรือประมงสัญชาติเวียดนาม จำนวน 2 ลำ ขณะลักลอบเข้ามาทำการประมงในเขตน่านน้ำไทย ของทัพเรือภาคที่ 1 (ผบ.ทรภ.1) เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา
นายชายชาญ กล่าวว่า ในส่วนของการจับกุมเรือประมงสัญชาติเวียดนามนั้น นอกจากเรือทั้ง 2 ลำจะถูกดำเนินคดีในข้อหารุกล้ำน่านน้ำไทยแล้ว จากการตรวจสอบยังพบว่า บนเรือมีเด็กอายุระหว่าง 10-12 ปี อยู่จำนวน 2 คน จึงจำเป็นต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งความเอาผิดฐานการค้ามนุษย์ต่อสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ทั้งนี้ แม้เรือทั้ง 2 ลำ จะเป็นเรือสัญชาติอื่น แต่เมื่อถูกจับกุมในเขตน่านน้ำไทยก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายไทย นอกจากนั้น ยังเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ พิจารณาข้อกฎหมายเพิ่มเติมเพื่อแจ้งความเอาผิดในฐานความผิดการค้ามนุษย์ และฐานความผิดอื่นๆ ต่อเรือประมงที่ถูกจับกุมด้วย
ขณะเดียวกัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ยังกำชับให้หน่วยงานต่างๆ เข้มงวดการตรวจสอบการใช้งานแรงงานต่างด้าวของสถานประกอบการต่างๆ ให้ถูกต้องตามประเภทที่ขึ้นทะเบียนไว้ โดยเฉพาะโรงงานแปรรูปสัตว์ทะเลที่มีอยู่ในพื้นที่ จะต้องไม่มีการกระทำความผิดที่เกี่ยวกับการใช้แรงงานต่างด้าว
ด้าน นายวิเชียร เสงี่ยม สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดชลบุรี ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมเกี่ยวกับการดำเนินคดีต่อเรือประมงสัญชาติเวียดนาม ว่า หลังเกิดเหตุสำนักงานฯ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ เพื่อให้เอาผิดเรือประมงทั้ง 2 ลำ ที่ถูกเรือหลวงรัตนโกสินทร์ เรือหลวงท้ายเหมือง และเรือตรวจการณ์ 217 ควบคุมเรือพร้อมลูกเรือประมาณ 10 คน เข้าเทียบท่ายังท่าเทียบเรือกลางอ่าว กองเรือยุทธการ อำเภอสัตหีบ ในฐานความผิดการค้ามนุษย์แล้ว
นอกจากนั้น ในที่ประชุมยังได้รายงานผลการทำงานของคณะทำงานบูรณาการความร่วมมือในการตรวจสภาพการจ้าง สภาพการทำงาน และการค้ามนุษย์ด้านแรงงานในเรือประมง กิจการประมงทะเลและกิจการที่เกี่ยวเนื่องระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม-30 กันยายน 2558 ว่า จากการตรวจสถานประกอบกิจการ 126 แห่ง เรือ 196 ลำ ลูกจ้าง 1,580 คน ไม่มีลูกจ้างอายุต่ำกว่า 18 ปี และไม่มีแรงงานบังคับ รวมทั้งไม่มีการใช้แรงงานค้ามนุษย์แต่อย่างใด
ส่วนผลการตรวจสอบสถานประกอบกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ 11 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม-11 ธันวาคม 2558 ไม่มีลูกจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และไม่พบการใช้แรงงานบังคับและไม่พบการใช้แรงงานค้ามนุษย์ แต่พบการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ในเรื่องไม่มีข้อบังคับการทำงาน ไม่มีทะเบียนลูกจ้าง ไม่มีเอกสารการจ่ายค่าจ้าง และไม่มีการประกาศวันหยุดตามประเพณี ซึ่งได้มีการดำเนินคดีแล้ว
ด้านสำนักงานจัดหางานจังหวัดชลบุรี เตรียมที่จะขยายเวลาการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ตั้งแต่ปลายปีนี้ ไปจนถึงต้นปีหน้าด้วย