นครพนม - ตชด.237 นครพนม จับเจ้าหน้าที่ป่าไม้วาริชภูมิ จ.สกลนคร ขนกัญชาอัดแท่งกว่า 15 กิโลกรัม พร้อมรถยนต์ อ้างเงินเดือนข้าราชการไม่พอใช้จ่าย หาเงินใช้หนี้ และรักษาลูกป่วยดาวน์ซินโดรม
วันนี้ (16 ธ.ค.) ที่หน่วย ตชด.237 นครพนม พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผกก.ตชด.23 และทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี กองร้อยทหารพรานที่ 2108 พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวหลังประสานกำลังจับกุม นายประวิทย์ สาระราช วัย 49 ปี เจ้าหน้าที่ป่าไม้แห่งหนึ่งใน อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร พร้อมของกลางกัญชาแห้งอัดแท่ง 15 แท่ง หนักประมาณ 15 กิโลกรัม พร้อมรถยนต์กระบะมิตซูบิซิ 4 ประตู สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กง 4613 สกลนคร โดยสามารถจับกุมได้ที่ริมถนนหลวง 212 สายนครพนม-บ้านแพง บริเวณบ้านพะทาย ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผกก.ตชด.23 กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 05.00 น.ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีขบวนการค้ายาเสพติดลักลอบลำเลียงยาเสพติดข้ามโขงมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแล้วลำเลียงผ่านพื้นที่ อ.ท่าอุเทน จุดสามแยกนาพระชัย อ.บ้านแพง ติดรอยต่อกับตำบลพะทาย อ.ท่าอุเทน ก่อนจะเลี้ยวเข้าสู่อำเภอศรีสงคราม ผ่านอำเภอนาหว้า จ.นครพนม และทะลุสู่จังหวัดสกลนคร เพื่อมุ่งสู่จังหวัดสกลนคร จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.ทวี ภาน้อย ผบ.ร้อย ตชด.237 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 2108 ฉก.กรม ทพ.ที่ 21 กกล.สุรศักดิ์มนตรี วางแผนเข้าจับกุม
พ.ต.ท.ทวี ภาน้อย ผบ.ร้อย ตชด.237 เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าตรู่ได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดริมถนนสายดังกล่าว กระทั่งพบรถยนต์ต้องสงสัยแล่นเข้ามาในพื้นที่ตรงตามที่รับแจ้ง เจ้าหน้าจึงแสดงตัวขอตรวจค้นพบกัญชาจำนวนดังกล่าวบรรจุกระสอบปุ๋ยสีขาว ซุกไว้ที่เบาะหลังที่นั่งด้านหลังคนขับ จึงจับคุมตัวมาสอบสวน ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายทุนให้ลำเลียงกัญชา ได้ค่าจ้างกิโลกรัมละ 1,000 บาท โดยขนครั้งละ 10-15 กิโลกรัม ทำมา 3 ครั้งแล้ว
เดิมทีเคยมาทำงานที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นพ.1 ก่อนจะย้ายกลับสกลนคร พอมีลู่ทาง และคุ้นเคยคนในพื้นที่ กัญชาที่ขนครั้งนี้จะนำส่งปลายทางที่ จ.สกลนคร และยังอ้างอีกว่าหาเงินใช้หนี้นายทุนกู้สร้างบ้านหลังใหม่ และหาเงินรักษาลูกที่ป่วยดาวน์ซินโดรม เงินเดือน 12,000 บาทไม่พอใช้ อีกทั้งบัตรเอทีเอ็มก็ถูกนายทุนเงินกู้ยึดไว้ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหามียาเสพติดประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย คุมตัวไว้ขยายผลเครือข่ายนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน ดำเนินคดีต่อไป