จันทบุรี- ภัยแล้งกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกข้าวตำบลบางสระเก้า อำเภอแหลมสิงห์ โดยต้องหันมาปลูกข้าวโพดแทน เนื่องจากปริมาณน้ำในคลองธรรมชาติไม่สามารถที่จะปลูกข้าวได้
วันนี้ (15 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงไปพื้นที่ดูการปลูกข้าวโพดในแปลงนา ของนายบุรี สีเผือก อายุ 60 ปี เกษตรกรผู้ปลูกข้าว อยู่บ้านเลขที่ 35/4 หมู่ที่ 1 ตำบลบางสระเก้า อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี พบว่า ในช่วงนี้การปลูกข้าวไม่สามารถที่จะปลูกได้แล้ว เนื่องจากน้ำที่มีอยู่ตามธรรมชาติไม่เพียงพอต่อการปลูกข้าว ทำให้ นายบุรี ต้องหันมาปลูกพืชระยะสั้นแทน โดยการปลูกข้าวโพดพันธุ์สวิทไวโอเล็ต ในแปลงนาเนื้อที่ 5 ไร่ ซึ่งใช้เวลาเพียง 63 วัน ก็สามารถที่จะเก็บผลผลิตส่งขายตลาดได้ สร้างรายได้ประมาณ 80,000 บาทต่อเดือน รวมทั้งข้าวโพดพันธุ์นี้กำลังได้รับความนิยมจากตลาดสูง ซึ่งสามารถเก็บส่งขายได้ในกิโลกรัมละ 13 บาท ทั้งนี้ หลังการปลูกข้าวโพดหมดก็จะหันปลูกข้าวเหมือนเดิม
ในเรื่องนี้ นายบุรี สีเผือก กล่าวว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งทำให้ปริมาณน้ำในคลองธรรมชาติไม่สามารถใช้ในการปลูกข้าวได้ เนื่องจากการปลูกข้าวแต่ละครั้งต้องใช้น้ำมาก ประกอบกับทางอำเภอแหลมสิงห์ ได้ขอความร่วมมือให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวงดการปลูกข้าวในช่วงนี้ไปก่อน จึงทำให้ตนเองต้องหันมาปลูกพืชระยะสั้นแทน โดยการหันมาปลูกข้าวโพดพันธุ์สวิทไวโอเล็ตในแปลงนา และก็สามารถสร้างรายได้ให้อย่างงาม ตลาดมีความต้องการสูง ประกอบกับมีราคาดี รวมทั้งตนเองไม่ต้องขาดรายได้ในช่วงนี้ไป
นอกจากนี้ ข้าวโพดที่ตนเองปลูกก็ดูแลง่ายไม่ยุ่งยาก สามารถเก็บผลผลิตขายได้เร็วใช้ระยะเวลาเพียง 63 วัน ก็สามารถที่จะสร้างรายได้นำมาจุนเจือเลี้ยงครอบครัวได้แล้ว