กาญจนบุรี - แม่น้องเอิร์ต เหยื่อ 6 โจ๋แก๊งชุกโดน ยันไม่เผาศพลูกชายจนกว่าตำรวจจะรวบยกแก๊ง วอนพ่อ-แม่โจ๋โหดที่ยังหลบหนีอีก 2 รายกล่อมลูกเข้ามอบตัว เห็นแก่หัวอกผู้เป็นแม่ด้วยกัน หวังได้รับการขอขมา ด้าน “ไอ้นาย” มือไม้เบสบอลฟาดหัว ดอดมอบตัว ภ.7 ก่อนคุมตัวกลับ จ.กาญจนบุรีเตรียมฝากขังพรุ่งนี้ ส่วน ผกก.กาญจนบุรีสั่งพลิกแผ่นดินไล่ล่า 2 คนร้ายถึงที่สุด
เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (13 ธ.ค. 58) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 10/1 หมู่ 3 ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี สถานที่ตั้งสวดพระอภิธรรมศพนายกฤษดา หรือเอิร์ต อ่อนน้อม อายุ 19 ปี พบนางกัญญา ทอยชเลอร์ แม่ของน้องเอิร์ต และนางปาจารีย์ มหาสังข์ ผู้เป็นป้าที่คอยเลี้ยงดูน้องเอิร์ตมาตั้งแต่ยังเล็ก โดยมีญาติและเพื่อนบ้านจำนวนหนึ่งมานั่งเล่นอยู่เป็นเพื่อน สำหรับบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว โดยโลงศพของน้องเอิร์ตได้ตั้งเอาไว้ด้านนอกติดกับห้องนอน มีพวงหรีดติดเอาไว้โดยรอบ
นางกัญญา ทอยชเลอร์ เปิดเผยด้วยน้ำตานองหน้าว่า คืนที่ผ่านมาเป็นคืนที่สวดพระอภิธรรมศพเป็นคืนที่ 7 และเป็นคืนสุดท้าย หลังจากนี้ก็จะตั้งศพลูกเอาไว้ที่หน้าบ้านเหมือนเดิมโดยจะยังไม่ยอมเผาศพของลูกชายจนกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถติดตามจับกุมคนร้ายที่กำลังหลบหนีอีก 2 คน ซึ่งจากการติดตามข่าวสารทางหนังสือพิมพ์และทีวีทราบว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว 3 คน และช่วงเช้าที่ผ่านมาทราบว่าผู้ต้องหาอีก 1 คนได้ให้มารดาพาเข้ามอบตัวที่ตำรวจภูธร ภาค 7 รวมได้ผู้ต้องหา 4 คน อีก 2 คนอยู่ระหว่างการหลบหนีการจับกุม
ตนและครอบครัวรู้ดีว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานกันอย่างเข้มแข็ง และตนก็เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ซึ่งต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย แต่อย่างไรก็ตาม ในฐานะหัวอกผู้เป็นแม่ก็ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้ทั้งหมด และขอฝากบอกไปถึงพ่อและแม่ของผู้ต้องหา ขอให้พาลูกของตนเองเข้ามอบตัวโดยเร็ว และสิ่งที่ตนต้องการก่อนที่จะเผาศพลูกคือ ขอให้ผู้ต้องหาทั้งหมดมาขอขมาศพลูกชายของตนเสียก่อน และขอให้พ่อแม่ของผู้ต้องหาอย่าได้ปกป้องบุตรหลานที่ลงมือกระทำต่อลูกชายของตนอย่างเหี้ยมโหด
ยอมรับว่าจนถึงขณะนี้ตนยังทำใจไม่ได้ที่ลูกชายต้องมาเสียชีวิตเช่นนี้ กลุ่มผู้ต้องหาที่กระทำต่อลูกชายของตนในวันนั้นเชื่อว่าไม่ได้กระทำลงไปเพราะความเมา หรือคึกคะนอง แต่เชื่อว่าการกระทำที่โหดร้ายดังกล่าวเกิดจากสันดานของกลุ่มผู้ต้องหาโดยแท้ เชื่อว่าหากเจ้าหน้าที่จับกุมได้ และหลังจากพ้นโทษออกมาจะต้องมีคนตายในลักษณะเดียวกันอย่างแน่นอน ตนเชื่ออย่างนั้น สำหรับการเสียชีวิตของลูกชายตนนั้นขอให้เป็นรายสุดท้ายที่ถูกกลุ่มผู้ต้องหารุมกระทำ และขอให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับพ่อแม่ทุกคน
ทั้งนี้ ทางครอบครัวได้ปรึกษากันแล้วว่าหากเจ้าหน้าที่จับกุมตัวผู้ต้องหาคือนายชัยอนุวัต หรือต้น รอดภัย ได้อีก 1 ราย ตนกับครอบครัวก็จะพิจารณาว่าอาจจะเผาศพลูกชาย แต่ต้องรอจนกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมตัวได้ ส่วนสาเหตุที่ต้องการเช่นนั้น เป็นเพราะว่าตนและครอบครัวทราบดีว่าผู้ต้องหาที่กำลังหลบหนีอยู่อีก 1 คนคือนายนิตินัย หรือมอส วัชรานุทัศน์ คงจะไม่ยอมมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ง่ายๆ เพราะรู้ดีว่าเคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง และยังมีคดีเก่าติดตัวอยู่หลายคดี
ด้าน พ.ต.อ.พิสุทธิ์ ศุกระศร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี กล่าวว่า เวลา 10.00 น. ที่ผ่านมาผู้ปกครองของนายปริญญ์ ปิ่นโรจน์ หรือนาย หนึ่งในผู้ต้องหา ได้นำตัวลูกชายไปมอบตัวที่ บช.ภ.7 และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้มีการแถลงข่าวด้วยตนเอง จากนั้นตนพร้อมด้วย พ.ต.อ.วีระ วิจิตรหงษ์ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ท.สุชาย เทศัชบุตร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ นปพ.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้เดินทางไปรับตัวนายปริญญ์กลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี และขณะนี้ถูกคุมตัวชั่วคราวอยู่ที่ห้องคุมขัง สภ.เมืองกาญจนบุรี จากนั้นพนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังผลัดแรกที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี แต่เนื่องจากวันนี้เป็นวันอาทิตย์ ดังนั้นต้องรอให้ถึงวันจันทร์เสียก่อน
ส่วนผู้ต้องหาที่กำลังหลบหนีอยู่ 2 คน คือ นายชัยอนุวัต หรือต้น รอดภัย อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/8 หมู่ 8 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ มจ.486/2558 และนายนิตินัย หรือมอส วัชรานุทัศน์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/16 ถ.แสงชูโต ต.บ้านใต้ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ มจ.854/2558 เจ้าหน้าที่คาดว่าหลังก่อเหตุคงจะหลบหนีไปด้วยกัน และเชื่อว่าคงจะยังคงหลบหนีไปได้ไม่ไกลโดยยังไม่ออกไปนอกประเทศอย่างแน่นอน ซึ่งอยากจะฝากบอกไปถึงญาติของผู้เสียชีวิตว่า ขอให้ใจเย็นๆ เจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด