อุบลราชธานี - ชาวบ้านเมืองดอกบัวเจอภัยแล้งไม่สามารถทำนาปลูกข้าว หันมารับจ้างต่อเรือหาปลาเป็นรายได้เสริมในปีนี้ โดยเดือนหนึ่งทำได้ 2-3 ลำ
รายงานข่าวแจ้งว่า ชาวบ้านโพนงาม ต.โพนงาม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพทำนาปลูกข้าว แต่หลังเก็บเกี่ยวข้าวนาปีได้รับคำเตือนจากเจ้าหน้าที่เกษตรประจำหมู่บ้าน และเจ้าหน้าที่ชลประทานจังหวัดให้หยุดปลูกข้าวนาปรังอย่างเด็ดขาด เนื่องจากน้ำจากลำน้ำชีที่เป็นแหล่งน้ำใช้เพาะปลูกมีไม่เพียงพอ จึงหันมาสร้างรายได้เสริมโดยการทำอาชีพรับจ้างต่อเรือใช้หาปลา
นายถนอม ดอกดวง อายุ 74 ปี หัวหน้าช่างต่อเรือของหมู่บ้านโพนงาม เล่าว่า อดีตชาวบ้านโพนงามจะมีอาชีพทำนาปลูกข้าว และจับปลาในแม่น้ำชี แต่ต่อมาประสบปัญหาภัยธรรมชาติ ทั้งภัยแล้งและน้ำท่วม การทำนาปลูกข้าวไม่ได้ผลแน่นอน
จึงมารวมตัวทำอาชีพต่อเรือหาปลาเป็นรายได้เสริม โดยเดือนหนึ่งสามารถต่อเรือได้ 2-3 ลำ โดยหากผู้ว่าจ้างหาไม้ใช้ทำเรือมาให้จะคิดเพียงค่าแรงลำละ 4,000-5,000 บาท แต่ถ้าให้หาไม้ทำเองตกลำละ 15,000-25,000 บาท โดยไม้ที่ใช้ต้องเป็นไม้ตะเคียนหรือไม้พะยอมเพื่อให้เรือใช้งานได้นาน
ปีนี้ชาวบ้านประสบปัญหาภัยแล้งอีก จึงรวมตัวกันมารับจ้างต่อเรือหารายได้แทนการปลูกข้าวนาปรังดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ชาวบ้านโพนงาม ต.โพนงาม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพทำนาปลูกข้าว แต่หลังเก็บเกี่ยวข้าวนาปีได้รับคำเตือนจากเจ้าหน้าที่เกษตรประจำหมู่บ้าน และเจ้าหน้าที่ชลประทานจังหวัดให้หยุดปลูกข้าวนาปรังอย่างเด็ดขาด เนื่องจากน้ำจากลำน้ำชีที่เป็นแหล่งน้ำใช้เพาะปลูกมีไม่เพียงพอ จึงหันมาสร้างรายได้เสริมโดยการทำอาชีพรับจ้างต่อเรือใช้หาปลา
นายถนอม ดอกดวง อายุ 74 ปี หัวหน้าช่างต่อเรือของหมู่บ้านโพนงาม เล่าว่า อดีตชาวบ้านโพนงามจะมีอาชีพทำนาปลูกข้าว และจับปลาในแม่น้ำชี แต่ต่อมาประสบปัญหาภัยธรรมชาติ ทั้งภัยแล้งและน้ำท่วม การทำนาปลูกข้าวไม่ได้ผลแน่นอน
จึงมารวมตัวทำอาชีพต่อเรือหาปลาเป็นรายได้เสริม โดยเดือนหนึ่งสามารถต่อเรือได้ 2-3 ลำ โดยหากผู้ว่าจ้างหาไม้ใช้ทำเรือมาให้จะคิดเพียงค่าแรงลำละ 4,000-5,000 บาท แต่ถ้าให้หาไม้ทำเองตกลำละ 15,000-25,000 บาท โดยไม้ที่ใช้ต้องเป็นไม้ตะเคียนหรือไม้พะยอมเพื่อให้เรือใช้งานได้นาน
ปีนี้ชาวบ้านประสบปัญหาภัยแล้งอีก จึงรวมตัวกันมารับจ้างต่อเรือหารายได้แทนการปลูกข้าวนาปรังดังกล่าว
