น้ำทะเลแหลมสิงห์ เปลี่ยนสี ทำผู้เลี้ยงปลากะพงขาวเดือดร้อน

จันทบุรี - เกิดอากาศแปรปรวน น้ำทะเล อ.แหลมสิงห์ เปลี่ยนสี ทำผู้เลี้ยงเดือดร้อน ปลากะพงขาวเกิดน็อกน้ำตายไปเป็นจำนวนมาก ซ้ำร้ายราคาตกต่ำอีก เผยอาจเปิดบ่อให้นักตกปลามาตกปลาแทนการจับปลากะพงขาวขายในช่วงนี้

วันนี้ (9 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายธีรศักดิ์ บุตรศรี อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/2 หมู่ที่ 4 ตำบลเกาะเปริด (เกาะเปิด) อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวส่งขาย ว่า ปลากะพงที่เลี้ยงไว้เกิดอาการน็อกน้ำตายไปเป็นจำนวนมาก สาเหตุมาจากสภาพอากาศที่แปรปรวน และน้ำทะเลเปลี่ยนสี ขอให้ผู้สื่อข่าวเดินทางมาทำข่าวช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวส่งขายด้วย

หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่บ่อเลี้ยงปลากะพงขาว พบ ธีรศักดิ์ ยืนรอผู้สื่อข่าวอยู่ และชี้ให้ดูปลากะพงขาวที่เลี้ยงไว้ในบ่อเลี้ยง จำนวน 2 บ่อ บ่อละ 1,500 ตัว พบว่า ปลากะพงขาวที่เลี้ยงไว้มีการน็อกน้ำตายไปเป็นจำนวนมาก ทำให้ภรรยาของ นายธีรศักดิ์ ต้องนำปลากะพงขาวที่น็อกน้ำตายมาแล่เนื้อ และหั่นเป็นชิ้นนำไปตากแดดขาย และบริโภคแทน รวมทั้งต้องเพิ่มออกซิเจนใบพัดตีน้ำภายในบ่อเลี้ยงปลากะพงเพิ่มขึ้น เพื่อให้ปลากะพงขาวที่เลี้ยงไว้ได้ปรับสภาพได้ทัน และไม่เกิดน็อกน้ำตายขึ้นอีก

นอกจากนี้ ยังต้องมาเจอปัญหาราคาปลากะพงขาวมีราคาตกต่ำซ้ำอีก จากเดิมเคยขายได้กิโลกรัมละ 120 บาท แต่ในปัจจุบันเหลือเพียงกิโลกรัมละ 80-90 บาทเท่านั้น ทำให้ นายธีรศักดิ์ ยังไม่ยอมจับปลากะพงขาวส่งขายในช่วงนี้ แม้จะครบกำหนดการจับแล้วก็ตาม ทั้งนี้ หากขายให้แก่พ่อค้าแม่ค้าไปก็จะไม่คุ้มทุนที่ได้ลงทุนไป

นายธีรศักดิ์ บุตรศรี เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวส่งขาย กล่าวว่า จากปัญหา และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนอาจจะมีการเปิดบ่อเลี้ยงให้ชาวบ้านที่ชอบตกปลา หรือนักตกปลามาตกปลาแทนการจับขายให้แก่พ่อค้าแม่ค้าก็เป็นได้ เพราะหากราคาปลากะพงยังมีราคาตกต่ำเช่นนี้การจับปลาไปขายก็จะไม่คุ้มทุน