ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่จัดกำลังพลชุดปฏิบัติการป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 24 ชุด เริ่มลุยป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า เน้นพูดคุยทำความเข้าใจในระดับพื้นที่ชุมชนหมู่บ้านให้งดการเผา และทำแนวกันไฟ ระบุ “แม่แจ่ม-เชียงดาว” เป็นพื้นที่ต้องเฝ้าระวังจับตาพิเศษเรื่องการเผา
วันนี้ (4 ธ.ค. 58) ที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ นายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานทำพิธีปล่อยแถวพร้อมให้โอวาทแก่กำลังพลชุดปฏิบัติการเพื่อดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 24 ชุด รวมเจ้าหน้าที่ทั้งสิ้น 240 คน
โดยการปล่อยแถวชุดปฏิบัติการเพื่อดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยที่ได้เล็งเห็นว่าในห้วงระหว่างเดือนมกราคมถึงเมษายนของทุกปี พื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย น่าน แพร่ พะเยา แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง และตาก มักประสบกับปัญหาไฟป่าและวิกฤตหมอกควัน ทั้งนี้มีสาเหตุหลักเกิดจากสภาพภูมิประเทศ และสภาพอากาศที่เกิดความแห้งแล้ง ประกอบกับพฤติกรรมการเตรียมพื้นที่เพาะปลูกพืช และการเผาตอซังจากการเกษตร รวมทั้งหมอกควันจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัยของพี่น้องประชาชน รวมทั้งบดบังทัศนวิสัย ก่อให้เกิดปัญหาต่อการคมนาคมทั้งทางบกและทางอากาศ และส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว
ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ทางกระทรวงมหาดไทยจึงได้มีหนังสือสั่งการด่วนเพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ทำงานแบบบูรณาการร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการในการป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า โดยทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 จึงได้มีการจัดกำลังพลชุดปฏิบัติการ เพื่อดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อคอยติดตามสถานการณ์ ป้องกันและเผ้าระวังการเกิดไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตามนโยบายคำสั่งอย่างใกล้ชิด
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า ในทุกๆ ปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าปัญหาหมอกควันและไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน มีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้นทุกปีจนกลายเป็นวาระแห่งชาติ เพราะว่าการที่มีหมอกควันและไฟป่า จะส่งผลกระทบต่อเรื่องของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว รวมถึงสุขภาพของประชาชน
ในปีนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่จึงได้มีการสั่งการให้ทุกภาคส่วน ร่วมกันบูรณาการในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน โดยการร่วมกันประชาสัมพันธ์ถึงการห้ามเผาป่า รวมไปถึงการทำแนวกันไฟ สำหรับพื้นที่ที่ต้องมีการจับตาเป็นพิเศษเกี่ยวกับการเผาของจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ อำเภอแม่แจ่ม อำเภอเชียงดาว ที่มีการปลูกข้าวโพดเป็นจำนวนมาก รองลงมา ได้แก่ อำเภออมก๋อย อำเภอพร้าว และอำเภอแม่แตง ซึ่งทางจังหวัดเชียงใหม่ จะได้มีการลงพื้นที่เพื่อสร้างความเข้าใจและให้ความรู้กับทางประชาชนต่อไป
