เชียงใหม่/เชียงราย - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 สั่งให้ตำรวจ 6 นายออกจากราชการไว้ก่อนทันที หลังอุ้มพ่อค้ายาเสพติดรีดเงิน 3 ล้านบาท แต่ถูกญาติแจ้งตำรวจเชียงรายซ้อนแผนรวบได้คาหนังคาเขาขณะมารับเงิน พร้อมสั่งดำเนินคดีอาญา-ห้ามประกันตัวซ้ำ
วันนี้ (3 ธ.ค.) พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 มีคำสั่งให้ตำรวจประพฤติผิดร้ายแรงให้ออกจากราชการไว้ก่อน ประกอบด้วย 1. ด.ต.ชาญชัย อุปะทะ ผบ.หมู่ กก.สส.1 บก.สส.ภ.5, 2. ด.ต.ชัยยศ ทาคำฟู ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เมืองเชียงราย, 3. ร.ต.ท.สราวุธ สิทธิวงศ์ รอง สว.สส.สภ.พร้าว จ.เชียงใหม่, 4. ด.ต.ศักดิ์ชัย เดอแก ผบ.หมู่(ป)สภ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่, 5. ด.ต.วีระวุฒิ พรมมาลา ผบ.หมู่ กก.สส.1 บก.สส.ภ.5 และ 6. ด.ต.วรกรณ์ ยางแดง รอง สว.กก.3.บก.สกส.บช.ปส.
พร้อมทั้งให้ดำเนินคดีทางอาญา และห้ามประกันตัวตำรวจทั้ง 6 นายอย่างเด็ดขาด รวมทั้งให้ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบข้อเท็จจริงโดยเร็ว
หลังตำรวจสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย (กก.สส.ภ.จว.เชียงราย) ที่ได้รับแจ้งจากชาวเขา ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงรายว่า “ญาติตนเองชื่อนางพลอย ถูกชายจำนวน 5-6 คนจับกุมตัวพร้อมยาบ้า จำนวน 15 มัด รวมกว่า 3 หมื่นเม็ด ตั้งแต่เวลาประมาณ 14.30 น. วันที่ 2 ธ.ค. โดยกลุ่มชายดังกล่าวได้เรียกเงินจำนวน 3 ล้านบาท” พร้อมกับขู่ว่า “หากไม่นำเงินมาให้จะจับตัวนางพลอยส่งดำเนินคดี หรืออาจจะฆ่าให้ตาย”
ทาง กก.สส.ภ.จว.เชียงราย กก.สส.ภ.จว.เชียงรายจึงได้ซ้อนแผน นัดหมายญาตินางพลอย ซึ่งเป็นกลุ่มชาวเขามาพบ โดยยืนยันว่าต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ช่วยเหลือนางพลอยให้ปลอดภัย โดยญาตินางพลอยหาเงินได้จำนวน 3 แสนบาท
จากนั้นได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส. 2 นาย ถือเงินไว้แล้วนั่งรถไปกับญาติของนางพลอยที่ถูกจับ และฝ่ายชาย 5-6 คนที่ถูกอ้างถึงได้เปลี่ยนที่นัดหมาย 3-4 เป้าหมาย กระทั่งนัดหมายสุดท้ายที่ตลาดวัดห้วยป่ากั้ง ต.แม่ยาว และได้มีชาย 2 คนขับรถมาประกบ
เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวจับกุม และตรวจสอบพบว่าชายที่มา 2 คนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเช่นกัน คือ 1. ด.ต.ชาญชัย อุปะทะ ผบ.หมู่ กก.สส.1 บก.สส.ภ.5, 2. ด.ต.ชัยยศ ทาคำฟู ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เมืองเชียงราย ต่อมาได้สอบถามว่ากลุ่มคนที่เหลือมีใครบ้าง จนทราบว่ามีตำรวจร่วมมือกันกระทำทั้งสิ้น 6 นายดังกล่าว
เบื้องต้นตำรวจทั้ง 6 นายมีหลายนายที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด แต่มาจากหน่วยงานหลายแห่ง แล้วอ้างว่าได้รับมอบหมายให้ไปดำเนินการจับกุมคดียาเสพติด แต่เมื่อตรวจสอบพบว่ามีพิรุธ และผิดปกติหลายอย่าง และไม่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้กำชับไปยังหัวหน้าหน่วยงานตำรวจทุกแห่ง ให้ตรวจสอบผู้ใต้บังคับบัญชาการอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นอีก