นักดำน้ำจากทั่วประเทศ ร่วมกันฟื้นฟูแหล่งดำน้ำหลังเกาะมันนอก

ระยอง - ทช.ร่วมกับชมรมนักดำน้ำจิตอาสาทั่วประเทศ 50 คน ดำน้ำเก็บกู้เศษซากอวนที่ปกคลุมเรือรบหลวงเภตราใต้ทะเล หลังเกาะมันนอก ถึง 1,500 กก. ฟื้นฟูแหล่งดำน้ำและแหล่งอาศัยสัตว์ทะเลให้สมบูรณ์

วันนี้ (29 พ.ย.) นายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผอ.สำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 (ทช.)นายวรรณ ชาตรี ผอ.ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่และชมรมนักดำน้ำจิตอาสาจากหลายชมรมทั่วประเทศจำนวน 50 คน ลงเรือมุ่งหน้าอ่าวไข่ แหลมแม่พิมพ์ ด้านหลังเกาะมันนอก ห่างจากฝั่งประมาณ 15 ไมล์ทะเล

นักดำน้ำจิตอาสาและเจ้าหน้าที่ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 ได้ดำลงใต้น้ำมีความลึกประมาณ 20เมตร พบเรือเภตรายาวประมาณ 40 เมตร กว้าง 8 เมตร ที่ถูกเศษอวนพวกเรืออวนลากปกคลุมทั้งลำเรือ ทำให้สัตว์ทะเลพวกปลาไม่สามารถเข้าไปอยู่อาศัยได้ เจ้าหน้าที่พร้อมนักดำน้ำได้ช่วยกันตัดอวนที่ปกคลุมเรือดังกล่าวจนหมดรวมทั้งเก็บขยะและขนขึ้นเรือนำกลับขึ้นฝั่ง

นายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผอ.สำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 กล่าวว่าก่อนหน้าเมื่อปี 2556 ทางทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกับกองทัพเรือ ได้จัดโครงการเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำทางทะเล โดยการนำเรือรบหลวงเภตรา ที่ปลดระวางประจำการ มาจมบริเวณอ่าวระยอง(เกาะมันนอก) แหลมแม่พิมพ์ ต.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง วัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งดำน้ำทางเลือก / เป็นการลดภาระบรรเทาจากการใช้แหล่งดำน้ำดูปะการังธรรมชาติ และเป็นแหล่งอาศัย ขยายพันธุ์และหลบภัยของสัตว์ทะเล

ทำให้มีนักดำน้ำจำนวนมากทั้งในและต่างประเทศ มาดำน้ำบริเวณจุดจมเรือเภตรา สามารถสร้างรายได้ให้กับจังหวัดจำนวนมากและในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมาดำน้ำจุดเรือจมเพิ่มขึ้นทุกปี ปัญหาและสิ่งที่ตามมา นอกจากทำให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำ ซึ่งเป็นสัตว์เศรษฐกิจจำนวนมาก ดึงดูดให้เรือประมงพาณิชย์ เช่นเรือ อวนลากขนาดใหญ่ เรืออวนล้อมจับ ลักลอบเข้ามาทำการประมงบริเวณจุดเรือจมอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีเศษขยะต่างๆจำนวนมาก

ที่สำคัญที่สุดคือมีเศษอวนผืนใหญ่ปกคลุมเรือเภตราจำนวนมาก ทำให้เป็นขยะในทะเล ซึ่งนับวันจะทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบนิเวศจุดเรือจมดังกล่าว

นายภุชงค์ ผอ.สำนักบริหารจัดการฯกล่าวว่าวันนี้ชมรมนักดำน้ำจิตอาสาจากทั่วประเทศร่วมกับนักดำน้ำอาสาของทรัพยากรทางทะเล ลงเก็บกู้ซากอวนบริเวณรอบเรือเภตรา เพื่อคืนความสวยงามให้กับแหล่งดำน้ำ และคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับระบบนิเวศตรงจุดเรือจม และได้นำเศษซากอวนและขยะกลับขึ้นฝั่ง จากการตรวจสอบเศษอวนที่นำขึ้นมามีน้ำหนักประมาณ 1,500 กก.