เมืองพัทยาตรวจสถานีสูบน้ำคลองปึกพลับ หลังการระบายน้ำย่านนาเกลือมีปัญหา

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ประธานคณะกรรมการโยธาและสาธารณูปโภค สภาเมืองพัทยา นำรุดตรวจสอบสถานีสูบน้ำคลองปึกพลับ หลังการระบายน้ำย่านนาเกลือมีปัญหา เผยเครื่องควบคุมระบบปั๊มน้ำเสียหาย 2 จุด เตรียมชงเรื่องขอสภาพิจารณาอนุมัติงบเร่งด่วนรับฤดูฝนหน้า หวั่นชาวบ้านเดือดร้อน

วันนี้ (26 พ.ย.) นายบรรลือ กุลละวณิชย์ ประธานคณะกรรมการโยธาและสาธารณูปโภค สภาเมืองพัทยา พร้อมด้วย ดร.วีระวัฒน์ ค้าขาย รองนายกเมืองพัทยา คณะสมาชิกสภาเมืองพัทยาและเจ้าหน้าที่ส่วนงานช่างสุขาภิบาลเมืองพัทยา ลงพื้นที่ตรวจสอบระบบระบายน้ำที่สถานีสูบน้ำคลองปึกพลับ นาเกลือ เพื่อตรวจสอบสภาพเครื่องจักร และระบบปฏิบัติด้านการระบายน้ำลงสู่คลองสาธารณะ หลังพบว่าที่ผ่านมา พื้นที่นาเกลือมีปัญหาน้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า สถานีสูบน้ำดังกล่าวมีปั๊มน้ำที่เปิดใช้งาน จำนวน 3 ตัว ที่ยังคงสามารถใช้การได้ตามปกติ แต่ในส่วนของเครื่องควบคุมระบบปั๊มซึ่งเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการสั่งการ 2 เครื่อง เกิดการชำรุดเสียหาย เนื่องจากผ่านสภาพการใช้งานมาอย่างยาวนาน และปัญหาการระบายน้ำอย่างหนักในช่วงมรสุม “หว่ามก๋อ” เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา

จึงทำให้เครื่องเกิดขัดข้องไม่สามารถใช้การได้ เป็นเหตุให้ปัจจุบันทางสถานีมีเครื่องปั๊มน้ำที่ใช้ในการระบายน้ำลงสู่คลองสาธารณะได้เพียง 1 เครื่อง ซึ่งมีความสามารถในการระบายน้ำในอัตรา 120 ลบ.ม./นาที ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการระบายน้ำลดลง ซึ่งกรณีดังกล่าวทางคณะกรรมการโยธาฯ จะได้นำเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อที่ประชุมสภาเพื่อขออนุมติงบประมาณเร่งด่วน 2 ล้านกว่าบาท เพื่อทำการสั่งซื้ออุปกรณ์ และระบบมาปรับปรุงต่อไป คาดว่าคงจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินการประมาณ 6 เดือน เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ และต้องดำเนินการทันทีเพื่อให้ทันต่อช่วงเวลาของฤดูฝนในปีหน้านี้

ด้าน ดร.วีรวัฒน์ กล่าวเสริมว่า นอกจากกรณีของเครื่องควบคุมระบบระบายน้ำที่ต้องแก้ไขเร่งด่วนแล้ว อีกกรณีคือ การตรวจสอบแนวคลองสาธารณะบริเวณสถานีสูบที่เชื่อมต่อไปยังทะเล ซึ่งปัจจุบันพบว่า มีสภาพคับแคบจากปัญหาการปลูกสร้างอาคารรุกล้ำ เป็นผลให้น้ำไม่สามารถระบายได้โดยสะดวก ทั้งนี้ ได้มีการประสานงานไปยังสำนักงานที่ดินเพื่อมาทำการรังวัดแนวเขตที่ชัดเจนก่อนออกหนังสือแจ้งให้ผู้รุกล้ำทำการรื้อถอน ซึ่งจะทำให้แนวคลองขยายกว้างเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกกว่า 3 เท่า และจะทำให้น้ำระบายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ขณะที่การแก้ไขปัญหาการระบายน้ำในพื้นที่ชายหาดพัทยานั้น ปัจจุบันได้มีการจัดซื้อเครื่องสูบน้ำขนาด 2.5 ลบ.ม./วินาที ไปติดตั้งเพิ่มจากเครื่องสูบเดิมขนาด 2 ลบ.ม./วิทนาที บริเวณสถานีสูบ PS 7 หรือปากทางวอล์กกิ้งสตรีท จำนวน 3 เครื่อง และสถานีสูบ PS 12 บริเวณแหลมบาลีฮาย เพิ่มอีก 4 เครื่อง รวมทั้งระบบเครื่องปั่นไฟ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำให้สูงขึ้น ซึ่งคงจะสามารถช่วยเสริมในระบบระบายน้ำชายหาดได้อีกหนทางหนึ่งด้วย