บุรีรัมย์/สุรินทร์ - เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ร่วมกลุ่มอนุรักษ์คลองละลม อสม. และกรรมการชุมชนทั้ง 18 ชุมชนกว่า 200 คนเร่งเก็บเศษซากกระทงและขยะมูลฝอยที่ลอยเกลื่อนคลองละลมโบราณทั้ง 6 ลูกเพื่อนำไปทำลายฝังกลบ ยังพบโฟมและวัสดุย่อยสลายยากกว่า 10% เช่นเดียวกับเมืองช้างขยะกระทงมหาศาลลอยเป็นแพเกลื่อนแม่น้ำ ลำคลองสาธารณะ รอเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ เก็บขนไปกำจัด
วันนี้ (26 พ.ย.) นายกมล เรืองสุขศรีวงษ์ นายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นางสิรินันท์ มณีราชกิจ ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมือง ได้ระดมพนักงานเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับกลุ่มรักษ์คลองละลม อสม.และกรรมการชุมชนทั้ง 18 ชุมชนกว่า 200 คน เร่งช่วยกันเก็บเศษซากวัสดุกระทง และขยะมูลฝอย ที่ลอยเกลื่อนในคลองละลมโบราณทั้ง 6 ลูกซึ่งเป็นสถานที่จัดงานลอยกระทง และเปิดให้ประชาชนนักท่องเที่ยวนำกระทงมาลอยเพื่ออนุรักษ์สืบสานประเพณี และเป็นการขอขมาแม่พระคงคาเมื่อคืนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เพื่อนำไปคัดแยกและทำลายฝังกลบที่บ่อกำจัดขยะของเทศบาลฯ ป้องกันการเน่าเสีย และก่อให้เกิดมลภาวะในคลองละลมโบราณ ทั้งเป็นการปรับภูมิทัศน์บริเวณคลองละลมโบราณให้สะอาด สวยงาม ซึ่งคาดว่าภายในคลองละลมโบราณทั้ง 6 ลูกจะมีเศษซากวัสดุกระทงมากกว่า 30,000 ใบ
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ยังพบมีประชาชน นักท่องเที่ยว ใช้โฟมและวัสดุย่อยสลายยาก ประดิษฐ์กระทงอยู่กว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นในปีหน้าทางเทศบาลฯ จะได้รณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ใช้วัสดุธรรมชาติประดิษฐ์กระทงให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมร่วมกัน
สำหรับคลองละลมโบราณดังกล่าวเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เชื่องโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอารยธรรมขอม ที่มีประวัติการก่อสร้างมายาวนานตั้งแต่ก่อตั้งเมืองบุรีรัมย์ ทั้งยังเป็นสถานที่พักผ่อนและออกกำลังกายของประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์อีกด้วย โดยเฉพาะคลองละลมโบราณลูกที่ 1 ในช่วงเย็นของวันเสาร์ และวันอาทิตย์ จะใช้เป็นสถานที่จัดตลาดถนนคนเดินจึงต้องเร่งเก็บซากกระทงและเศษขยะให้แล้วเสร็จก่อนถึงวันเปิดถนนคนเดิน
นายกมล เรืองสุขศรีวงษ์ นายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า ปีนี้ได้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวสนใจร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทงมากกว่าทุกปีที่ผ่านมาเท่าตัวทำให้กระทงมีปริมาณมากขึ้น อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจพบว่ากระทงส่วนใหญ่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ใบตอง ต้นกล้วย ดอกไม้ชนิดต่างๆ รวมทั้งขนมปัง ที่ย่อยสลายง่ายไม่ก่อให้เกิดมลพิษในแม่น้ำลำคลอง แต่ก็ยังมีวัสดุที่ย่อยสลายยาก เช่น โฟม พลาสติก อยู่บ้าง ซึ่งจะเห็นได้ว่าประชาชนตื่นตัวหันมาร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ในปีต่อไปจะได้รณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนนักท่องเที่ยวหันมาใช้วัสดุธรรมชาติให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์
เช่นเดียวกันกับที่ จ.สุรินทร์ หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และวัดต่างๆ ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ทั้ง 17 อำเภอ ได้จัดงานสืบสานประเพณีลอยกระทงกันอย่างคึกคักและยิ่งใหญ่เพื่อขอขมาแม่พระคงคา และร่วมอนุรักษ์ประเพณีที่ดีงามของไทย ส่งผลให้วันนี้บริเวณพื้นที่จัดงาน และแม่น้ำลำคลองสาธารณะต่างๆ เต็มไปด้วยเศษขยะและซากกระทงที่ประชาชนนักท่องเที่ยวนำมาลอยแม่น้ำ กองกระจัดกระจายอยู่ตามพื้นดินและพื้นน้ำเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะคลองน้ำสาธารณะในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ บริเวณสระน้ำวัดจุมพลสุทธาวาส และสวนรัก ที่มีการจัดกิจกรรมประเพณีลอยกระทงแบบย้อนยุค พบว่ามีขยะกระทงจำนวนมหาศาลลอยเป็นแพเกลื่อนเต็มพื้นผิวน้ำเป็นบริเวณกว้าง รอเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองสุรินทร์มาจัดเก็บขนออกไปกำจัด และระดมทำความสะอาดบริเวณสถานที่จัดงานเพื่อให้เข้าสู่สภาพเดิมโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้พบว่ากระทงส่วนใหญ่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ ซึ่งสามารถย่อยสลายไปเองได้มากกว่ากระทงที่ทำมาจากโฟม และพลาสติก ขณะที่ชาวบ้านได้พากันมาหาเก็บเศษเงินที่ประชาชนนักท่องเที่ยวนำบรรจุไว้ในกระทงเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรและผู้ล่วงลับ รวมทั้งเพื่อบูชาแม่พระคงคาตามความเชื่อมาแต่โบราณ
นายดาวเสด็จ สุวรรณทา อายุ 58 ปี ชาว อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ตนมาหาเทียนจากกระทงตั้งแต่หกโมงเช้าเพื่อนำไปขาย และนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ปีนี้เก็บเทียนพอได้ แต่โชคไม่ดีค้นหาเงินเหรียญในกระทงได้เพียง 20 บาท อาจเป็นเพราะปริมาณกระทงมีน้อยกว่าปีที่ผ่านมา คนเข้ากรุงเทพฯ ไปขายแรงงานหมด ไม่กลับมาลอยกระทงที่บ้านเกิด สำหรับเทียนที่เก็บได้ร้านรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 8 บาท และบางส่วนเอาไปหลอมเป็นเทียนเล่มใหม่ใช้ในชีวิตประจำวันต่อไป
ด้านนางกิ่ง สุดแสง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 ม.21 ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ตนมาหาเก็บเขาตะปู เข็มหมุด เอาไปทำประโยชน์ต่อ สำหรับใช้เย็บทำกระทง และห่อของขวัญ บางคนมาเก็บเทียนไปใช้ กระทงธรรมชาติที่ทำจากต้นกล้วย ใบตอง ย่อยสลายง่าย ไม่น่าจะทำให้น้ำเน่าเสีย คาดว่าน่าจะ 2-3 วันเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองสุรินทร์น่าจะเก็บเสร็จ แต่ปีนี้พบว่ายังมีกระทงโฟมบ้างประปราย