ลำปาง - ผู้อำนวยการท่าอากาศยานลำปางนำเจ้าหน้าที่เร่งเก็บซากโคมลอยยี่เป็งตกในเขตปลอดภัยตั้งแต่เช้า เผย 2 วันในห้วงเทศกาลลอยกระทงปีนี้เจอแล้ว 50 กว่าลูก แต่สถิติลดลงจากปีก่อนที่เก็บได้วันละเป็นร้อยลูก
เช้าวันนี้ ( 26 พ.ย.) นายเรืองยุทธ นิตยานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานลำปาง พร้อมด้วยนายสมคิด ป้อมบ้านต้า, นายกฤษฎา มาจิณา เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ท่าอากาศยานจังหวัดลำปาง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเขตปลอดภัยการบินของสนามบินลำปาง โดยเฉพาะแนว Runway และพื้นที่รอบๆ เพื่อเร่งเก็บซากโคมลอยที่ปลิวมาตกอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
เบื้องต้นพบว่าวันนี้มีซากโคมลอยที่มีรูปแบบ ลักษณะ ขนาดแตกต่างกันตกในเขตปลอดภัยของสนามบินทั้งหมด 40 ลูก รวมยอดโคมลอยที่เก็บได้ระหว่าง 25-26 พ.ย. มีทั้งหมด 53 ลูก ซึ่งก็จะได้เอาไปทำลายต่อไป
อย่างไรก็ตาม การเก็บซากโคมลอย รวมทั้งสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่เส้นทางขึ้นลงของเครื่องบิน เป็นมาตรการดูแลความปลอดภัยของเที่ยวบินต่างๆ ที่ปฏิบัติทุกวัน และทุกเที่ยวของการขึ้นลงของเครื่องบินเพื่อให้เกิดความปลอดภัย
อีกทั้งในช่วงระหว่างวันที่ 24-26 พฤศจิกายน 2558 ซึ่งเป็นเทศกาลลอยกระทง เป็นช่วงที่มีมาตรการที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น เนื่องจากทุกปีจะมีการปล่อยโคมลอย จุดพลุ ดอกไม้ไฟ ขึ้นบนท้องฟ้า ส่งผลกระทบต่อการเดินทางทางอากาศหรือเครื่องบิน
โดยก่อนหน้านี้ทางท่าอากาศยานลำปางได้ทำหนังสือไปยังหน่วยงานท้องถิ่นชุมชนต่างๆ ที่อยู่พื้นที่รัศมีเฝ้าระวังในการจุดพุลปล่อยโคม โดยขอร่วมมือประชาชนให้ปล่อย หรือดำเนินการภายหลังเวลา 20.30 น. ซึ่งเป็นเวลาที่อากาศยานหยุดทำการบินขึ้นจากท่าอากาศยานลำปางแล้ว และหากมีการปล่อยโคมลอยขนาดใหญ่หรือมีจำนวนมากขอให้แจ้งไปยังท่าอากาศยานลำปางเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมรายละเอียด วัน เวลา สถานที่ที่จะปล่อยโคมลอย จำนวนโคมลอย พลุ ลูกโป่ง และดอกไม้ไฟที่จะปล่อย
รวมถึงการส่องลำแสงจากพื้นดินสู่อากาศ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี แต่ก็ยังมีบางจุดที่มีการปล่อย แต่ก็ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการบินมากนัก เพราะเครื่องบินที่ขึ้นลงท่าอากาศยานลำปางจะมีเฉพาะเช้าและค่ำ
นายสมคิด ป้อมบ้านต้า เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ท่าอากาศยานจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ปีก่อนจะพบโคมลอยมาตกมากกว่านี้ คือในช่วงเช้าหลังจากคืนวันลอยกระทงจะมีซากโคมลอยตกอยู่แนว Runway และพื้นที่รอบๆ จำนวนมากกว่า 100 ลูก แต่ช่วงสองปีหลังมานี้สถิติที่พบก็ลดลงเรื่อยมา คาดว่าน่าจะมาจากการให้ความร่วมมือในการงดปล่อยโคมในพื้นที่เฝ้าระวัง อีกทั้งสภาพอากาศที่เป็นใจช่วยพัดเอาโคมลอยปลิวไปตกที่อื่นแทน