นครพนม - ปิดตำนานแก๊งโจ๋ป่วนเมืองโคกกลาง อำเภอปลาบาก หลังหัวโจก “เขาทราย” ถูกจับกุม และนำมาแถลงข่าวขอขมานายตำรวจที่ถูกรุมทำร้าย เผยประวัติก่อเหตุโชกโชนจนทำชาวบ้านหวาดผวา
ที่ สภ.ปลาปาก อ.ปลาปาก จ.นครพนม พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยรรยง เวชโอสถ รักษาราชการแทนผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พ.ต.อ.พงษ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ ผู้กำกับการสืบสวน 3 ตำรวจภูธรภาค 4 พ.ต.อ.ธทัต อิ่มทั่ว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พ.ต.ท.สุนันท์ วงษ์สีมี สว.สืบสวน 3 พร้อมด้วย พ.ต.ท.ไพรวัลย์ อายุวงษ์ สว.สืบสวน 3 นำกำลังชุดเฉพาะกิจตำรวจภูธรภาค 4 ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายเขาทราย พ่อศรีชา อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ 15 ต.ปลาปาก อ.ปลาปาก จ.นครพนม พร้อมด้วยเพื่อนร่วมแก๊งเยาวชนอายุ 17 ปี อีก 2 ราย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม
ภายหลังร่วมกันก่อเหตุรุมทำร้ายร่างกาย ร.ต.ท.สำรวย ศรีแก้วเลิศ อายุ 59 ปี รอง สวป.สภ.ปลาปาก จ.นครพนม เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.วันที่ 11 พ.ย.58 ขณะผู้เสียหายขับรถมาพบเห็นแก๊งวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์มารวมกลุ่มกันประมาณ 10 คน เพื่อดื่มเหล้าก่อกวนชาวบ้าน ริมถนนบริเวณหน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาอำเภอปลาปาก ถนนสายปลาปาก-นครพนม ก่อนร่วมกันรุมทำร้ายผู้เสียหายเนื่องจากไม่พอใจที่จอดรถเก๋งตะโกนบอกว่ากล่าวตักเตือน
โชคดีชาวบ้านช่วยไว้ได้ทัน ได้รับบาดเจ็บถูกของแข็งทุบตามร่างกาย ส่วนแก๊งวัยรุ่นได้หลบหนีไป และติดตามจับกุมได้หลังหนีกบดานไปหลบที่ กทม.
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ลงมือทำร้ายร่างกายตำรวจจริง เนื่องจากมีอาการมึนเมา และไม่พอใจที่ผู้เสียหายมาต่อว่า จึงเกิดอาการคึกคะนอง และร่วมกันทำร้ายร่างกาย ซึ่งภายหลังได้สำนึกผิด พร้อมขอกราบขอขมานายตำรวจผู้ที่ได้รับบาดเจ็บต่อหน้าตำรวจที่มาร่วมแถลงข่าว และยอมรับว่าสำนึกจะไม่ทำผิดอีก
ซึ่งทางตำรวจจะได้ทำการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 296, 83 นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัตินายเขาทราย พบว่า เป็นหัวหน้าแก๊งวัยรุ่นอันธพาลรายสำคัญของอำเภอปลาปาก ที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ชาวบ้านมาตลอด จนเป็นที่หวาดผวา เคยต้องคดีทำร้ายร่างกาย เมื่อปี 2550 รวมถึงถูกจับกุมมีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง พื้นที่ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ประมาณปี 2556 ถูกตัดสินจำคุก 1 ปี 6เดือน ภายหลังพ้นโทษได้มาบวชจำพรรษาที่วัดในพื้นที่ ต.ปลาปาก อ.ปลาปาก จ.นครพนม และลาสึกขาออกมาเมื่อช่วงออกพรรษา จนกระทั่งมาก่อเหตุซ้ำอีก
ด้าน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ โดยตนจะสั่งการให้ตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบกำชับดูแลตำรวจท้องที่ให้มีการตรวจสอบป้องกันปราบปรามการตั้งแก๊งสร้างความวุ่นวายในสังคม โดยเฉพาะปัญหากลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมสร้างความเดือดร้อนรำคาญถือ เป็นเรื่องสำคัญที่ตำรวจต้องเข้าไปดูแลเข้มงวด รับปากว่าจะไม่มีการกลับมาสร้างปัญหาอีก
รวมถึงกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มอื่นๆ ในพื้นที่ทุกจังหวัดจะต้องให้ตำรวจปราบปรามเอาจริง ที่สำคัญฝากไปยังพี่น้องประชาชน รวมถึงพ่อแม่ผู้ปกครองช่วยกันสอดส่องดูแลเอาใจใส่ตักเตือนบุตรหลานไม่ให้สร้างปัญหาต่อสังคม รวมถึงหากรู้เบาะแสปัญหายาเสพติด อาชญากรรม ให้แจ้งตำรวจท้องที่ทันที
