xs
xsm
sm
md
lg

“ม้งน่าน” เลิกปลูกข้าวโพด กะหล่ำ หันทำพืชเมืองหนาว ท่องเที่ยวเชิงเกษตรทำเงินปีเป็นล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


น่าน - พบเกษตรกรชาวม้งขุนสถาน เมืองน่าน บางส่วนเลิกทำไร่ข้าวโพด กะหล่ำปลีที่เคยทำกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ แต่ยิ่งทำยิ่งขาดทุน หันมาปลูกพืชผักเมืองหนาว เปิดโฮมสเตย์ ทำท่องเที่ยวเชิงเกษตร ทำเงินได้ปีละเป็นล้าน

วันนี้ (22 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้เกษตรกรชาวม้งขุนสถาน อ.นาน้อย จ.น่าน บางส่วนเลิกปลูกข้าวโพด กะหล่ำปลี ซึ่งต้องใช้พื้นที่ และสารเคมีจำนวนมากแล้ว โดยหันมาปลูกพริกหวาน ส่งโครงการหลวง รวมทั้งองุ่น และสตรอเบอรี่ ในลักษณะท่องเที่ยวเชิงเกษตร สามารถสร้างรายได้ปีละนับล้านบาท

นายยิ่งยศ สุวรรณคีรียง อายุ 56 ปี อดีตผู้อำนวยการโรงประกิตเวชศักดิ์ อ.นาน้อย จ.น่าน ที่ผันตัวมาทำการเกษตรเต็มตัว บอกว่า ได้ปลูกพริกหวาน องุ่น สตรอเบอรี่ แทนการปลูกข้าวโพด และกะหล่ำปลี ที่ทำกันมาตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อแม่ เพราะการปลูกกะหล่ำ กับข้าวโพดต้องใช้พื้นที่ สารเคมี และปุ๋ยมาก ยิ่งทำยิ่งขาดทุน มีแต่หนี้สิน จึงหันมาปลูกพืชที่โครงการหลวงเข้ามาส่งเสริม ทำให้มีรายได้ตลอดปี

“พริกหวานที่ปลูกเก็บขายได้ปีละ 2,000 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 40 บาท องุ่นปีละ 1,000 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 300 บาท ยังไม่รวมสตรอเบอรี่ ทำให้มีรายได้ปีละนับล้านบาท”

และด้วยความงดงามของธรรมชาติบนอุทยานแห่งชาติขุนสถาน ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกปี นายยิ่งยศ ยังได้เปิดสวนให้นักท่องเที่ยวชม ชิม และซื้อผลผลิตกันสดๆ เป็นการท่องเที่ยวเชิงเกษตร พร้อมสร้างบ้านพักหลังเล็กๆ แบบโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยว ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติแบบชาวบ้าน ไว้ 5 หลัง เป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง

นอกจากนี้ ยังเปิดสวนให้ชาวบ้านในชุมชนเข้ามาเรียนรู้การทำการเกษตรแบบใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่ปลูกในโรงเรือน ใช้ระบบน้ำหยด ช่วยประหยัดน้ำ ปุ๋ย และลดการใช้สารเคมี จนทำให้ชาวม้งในชุมชนหลายรายเลิกปลูกพืชเชิงเดี่ยวทั้งข้าวโพด กะหล่ำปลี หันเดินตามรอยความสำเร็จของเขา ทั้งการปลูกพืช และการท่องเที่ยว นอกจากชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นแล้ว ยังลดการรุกป่าในอุทยานแห่งชาติขุนสถานด้วย



กำลังโหลดความคิดเห็น