หนองคาย - นักเรียนหญิง ม.6 ขี่จักรยานยนต์จะไปโรงเรียน ถูกชายหนุ่มวัย 20 ปี ลากตัวเข้าป่าละเมาะข้างทางหวังข่มขืน สู้สุดฤทธิ์ใช้มือบีบอวัยวะเพศจนดิ้นหลุด แต่ยังถูกชิงเงิน 160 บาท ตำรวจจับได้ สารภาพแอบฉกเงินเมีย 1 พันบาท ไปซื้อยาเสพต้องหาเงินมาคืน
เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ (20 พ.ย.) พ.ต.อ.สมชาย สงวนศักดิ์ภักดี ผกก.สภ.ท่อบ่อ จ.หนองคาย ร.ต.ท.พนมกร ปุญญะโสภณ รอง สวป. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายพลรัตน์ ศรีเชียงขวาง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 หมู่ 10 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำ ทะเบียน 1 กค 2003 อุดรธานี ในข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป โดยมีผู้เสียหายและญาติมารอดูหน้านายพลรัตน์ พร้อมตะโกนต่อว่าอยู่ตลอดเวลา
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 08.45 น. วันเดียวกัน น.ส.ก้อย (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ใส่ชุดกีฬาของโรงเรียนขี่รถจักรยานยนต์จากบ้านจะไปโรงเรียนตามถนนสายท่าบ่อ-บ้านผือ จนกระทั่งมาถึงบ้านลำดวน หมู่ 4 ได้มี นายพลรัตน์ ขี่รถจักรยานยนต์ตามมาประกบแล้วเอื้อมมือมาปิดสวิตช์รถทำให้รถหยุด
จากนั้น นายพลรัตน์ ได้ล็อกคอจากด้านหลัง ลาก น.ส.ก้อย ไปยังป่าละเมาะข้างทาง โดย น.ส.ก้อย พยายามดิ้นรนขัดขืน นายพลรัตน์ ได้ชกเข้าที่ใบหน้า 1 ครั้ง แล้วได้ขึ้นคร่อมร่าง น.ส.ก้อย ควานหาเงินในกระเป๋ากางเกงของ น.ส.ก้อย ได้เงินไป 160 บาท น.ส.ก้อย ได้จังหวะจึงใช้มือบีบที่อวัยวะเพศจนนายพลรัตน์ เจ็บปวด แล้วรีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ส่วน น.ส.ก้อย ได้ตะเกียกตะกายออกมาจากป่าละเมาะ มาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน พอดีมีรถกระบะผ่านมาเห็นเข้าจึงเข้าช่วยพาตัวมาแจ้งตำรวจ และพาตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ พบว่า มีรอยฟกช้ำตามลำคอ ท่อนแขน ใบหน้า และแผลถลอกบริเวณหัวเข่า โดย น.ส.ก้อย บอกว่าไม่รู้จักกับนายพลรัตน์ มาก่อน
หลังจากรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ได้สืบสวน และพยายามติดตามจับกุม จนกระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น. มีชาวบ้านพบเห็นนายพลรัตน์ ยืนอยู่ริมถนนท่าบ่อ-บ้านผือ บริเวณหน้าสถานีพลังงานแสงอาทิตย์ รอยต่อ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ร.ต.ท.พนมกร ปุญญะโสภณ รอง สวป. จึงนำกำลังไปจับกุม
จากการสอบสวนนายพลรัตน์ รับสารภาพว่า ตนขายข้าวจี่อยู่ที่หมู่บ้าน ภรรยากำลังตั้งครรภ์ เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้แอบเอาเงิน 1,000 บาท ของภรรยาไปซื้อยาบ้ามาเสพ 3 เม็ด ภรรยารู้จึงโกรธมาก บอกให้ตนหาเงินมาคืนเพราะเป็นเงินที่จะเอาไปฝากครรภ์ ตนไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาคืนจึงคิดจะชิงทรัพย์
พอดีเห็นผู้เสียหายเป็นผู้หญิงขี่รถมาตามลำพังจึงลงมือก่อเหตุ หวังเพียงจะชิงทรัพย์ แต่หากผู้เสียหายไม่ขัดขืนก็จะลงมือข่มขืน เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ (20 พ.ย.) พ.ต.อ.สมชาย สงวนศักดิ์ภักดี ผกก.สภ.ท่อบ่อ จ.หนองคาย ร.ต.ท.พนมกร ปุญญะโสภณ รอง สวป. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายพลรัตน์ ศรีเชียงขวาง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 หมู่ 10 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำ ทะเบียน 1 กค 2003 อุดรธานี ในข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป โดยมีผู้เสียหายและญาติมารอดูหน้านายพลรัตน์ พร้อมตะโกนต่อว่าอยู่ตลอดเวลา
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 08.45 น. วันเดียวกัน น.ส.ก้อย (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ใส่ชุดกีฬาของโรงเรียนขี่รถจักรยานยนต์จากบ้านจะไปโรงเรียนตามถนนสายท่าบ่อ-บ้านผือ จนกระทั่งมาถึงบ้านลำดวน หมู่ 4 ได้มี นายพลรัตน์ ขี่รถจักรยานยนต์ตามมาประกบแล้วเอื้อมมือมาปิดสวิตช์รถทำให้รถหยุด
จากนั้น นายพลรัตน์ ได้ล็อกคอจากด้านหลัง ลาก น.ส.ก้อย ไปยังป่าละเมาะข้างทาง โดย น.ส.ก้อย พยายามดิ้นรนขัดขืน นายพลรัตน์ ได้ชกเข้าที่ใบหน้า 1 ครั้ง แล้วได้ขึ้นคร่อมร่าง น.ส.ก้อย ควานหาเงินในกระเป๋ากางเกงของ น.ส.ก้อย ได้เงินไป 160 บาท น.ส.ก้อย ได้จังหวะจึงใช้มือบีบที่อวัยวะเพศจนนายพลรัตน์ เจ็บปวด แล้วรีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ส่วน น.ส.ก้อย ได้ตะเกียกตะกายออกมาจากป่าละเมาะ มาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน พอดีมีรถกระบะผ่านมาเห็นเข้าจึงเข้าช่วยพาตัวมาแจ้งตำรวจ และพาตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ พบว่า มีรอยฟกช้ำตามลำคอ ท่อนแขน ใบหน้า และแผลถลอกบริเวณหัวเข่า โดย น.ส.ก้อย บอกว่าไม่รู้จักกับนายพลรัตน์ มาก่อน
หลังจากรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ได้สืบสวน และพยายามติดตามจับกุม จนกระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น. มีชาวบ้านพบเห็นนายพลรัตน์ ยืนอยู่ริมถนนท่าบ่อ-บ้านผือ บริเวณหน้าสถานีพลังงานแสงอาทิตย์ รอยต่อ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ร.ต.ท.พนมกร ปุญญะโสภณ รอง สวป. จึงนำกำลังไปจับกุม
จากการสอบสวนนายพลรัตน์ รับสารภาพว่า ตนขายข้าวจี่อยู่ที่หมู่บ้าน ภรรยากำลังตั้งครรภ์ เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้แอบเอาเงิน 1,000 บาท ของภรรยาไปซื้อยาบ้ามาเสพ 3 เม็ด ภรรยารู้จึงโกรธมาก บอกให้ตนหาเงินมาคืนเพราะเป็นเงินที่จะเอาไปฝากครรภ์ ตนไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาคืนจึงคิดจะชิงทรัพย์
พอดีเห็นผู้เสียหายเป็นผู้หญิงขี่รถมาตามลำพังจึงลงมือก่อเหตุ หวังเพียงจะชิงทรัพย์ แต่หากผู้เสียหายไม่ขัดขืนก็จะลงมือข่มขืน เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
