กาญจนบุรี - ตำรวจพร้อมลุยจัดระเบียบแพ แต่ติดขัดงบ น้ำมัน เครื่องตรวจวัดระดับเสียง ด้านนายกชาวแพโอดลูกค้ายกเลิกจองแล้ว 10% นัดถกผู้ประกอบการ 22 พ.ย. ก่อนร่วมประชุมจังหวัดหาทางออกร่วมกัน
วันนี้ (19 พ.ย.) พ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีสกุล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ภาพรวมของจังหวัดมีแพล่องประมาณ 1,500 หลัง ซึ่งแพที่อยู่ในเขต อ.เมือง มีจำนวนมากที่สุดประมาณ 450 หลัง แบ่งเป็นแพเธค ประมาณ 200 หลัง และแพพัก 2 ชั้น ประมาณ 250 หลัง อีกส่วนหนึ่งเป็นแพอาหารที่จอดอยู่กับที่มีประมาณ 15 ร้าน บางรายรุกล้ำลำน้ำจนทำลายทัศนียภาพของแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบที่จะต้องเข้าไปกำกับดูแล
ทั้งนี้ ทางตำรวจมีมาตรการในการออกตรวจตราในช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ โดยจะบูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครอง กรมเจ้าท่า ฝ่ายความมั่นคง หากพบว่ามีแพใดเปิดใช้เสียงในเขตห้ามใช้จะดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งในวันที่ 23 พ.ย. ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาข้อร้องเรียน พร้อมกับทบทวนการทำงานที่ผ่านมา
สำหรับปัญหาอุปสรรคการปฏิบัติงานของตำรวจ คือ งบประมาณเรื่องน้ำมัน ซึ่งในแต่ละคืนที่ออกตรวจตราจะต้องเติมน้ำมันประมาณ 4,000 บาทต่อลำ ซึ่งทางตำรวจไม่มี รวมทั้งเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจวัดระดับความดังของเสียงซึ่งไม่มี ต้องประสานยืมมาจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมาใช้
“ที่ผ่านมาผู้ประกอบการส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือ มีเพียงบางรายที่ไม่เคารพกฎกติกา จึงทำให้เกิดเป็นปัญหาขึ้น อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนรำคาญ เมื่อพบเห็นว่ามีแพใดทำความผิดทั้งเรื่องเสียง ยาเสพติด อาวุธปืน ทะเลาะวิวาท ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีเพื่อจะได้เข้าไปดำเนินการต่อผู้กระทำผิดต่อไป”
น.ส.รัฎฐ์ชาพัชร กระจ่างฉาย นายกสมาคมชาวเรือชาวแพ จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการแพล่องได้เร่งแก้ปัญหาทางเสียงมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการปรับขนาดเบสของลำโพงลงเหลือเพียงแค่ 18 นิ้ว รวม 4 ตัว จากที่เคยใช้ขนาด 21 นิ้ว 24 นิ้ว และ 30 นิ้ว ตลอดทั้งเปิดเสียงลำโพงไม่เกิน 91 เดซิเบล ตามกฎที่กำหนดเอาไว้อย่างเคร่งครัด หากผู้ประกอบการรายใดไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงก็ให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายได้ทันที เพราะถือว่าทุกรายต่างก็ทราบกฎข้อบังคับเป็นอย่างดี
ล่าสุด หลังจากที่เป็นข่าวได้มีลูกค้าแจ้งยกเลิกการจองแพไปแล้วประมาณ 10% ขณะเดียวกัน ได้มีกระแสข่าวว่าทางจังหวัดจะเรียกประชุมเพื่อหาทางแก้ปัญหาในวันที่ที่ 23 พ.ย. ด้วยการไม่ให้แพล่องติดเครื่องเสียง พวกเราจึงเกิดความวิตกเป็นอย่างมาก เพราะจะส่งผลกระทบต่อผู้ชาวเรือชาวแพ รวมทั้งชาวบ้านที่ขายสินค้าให้แก่นักท่องเที่ยวก็จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ยังจะส่งผลทำให้จำนวนของนักท่องเที่ยวลดลง โดยวันที่ 22 พ.ย. สมาคมชาวเรือชาวแพจะประชุมหาทางออกร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง และอยากจะเชิญผู้ที่ร้องเรียนว่าได้รับผลกระทบทางเสียงมานั่งพูดคุยกันเพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้”
วันนี้ (19 พ.ย.) พ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีสกุล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ภาพรวมของจังหวัดมีแพล่องประมาณ 1,500 หลัง ซึ่งแพที่อยู่ในเขต อ.เมือง มีจำนวนมากที่สุดประมาณ 450 หลัง แบ่งเป็นแพเธค ประมาณ 200 หลัง และแพพัก 2 ชั้น ประมาณ 250 หลัง อีกส่วนหนึ่งเป็นแพอาหารที่จอดอยู่กับที่มีประมาณ 15 ร้าน บางรายรุกล้ำลำน้ำจนทำลายทัศนียภาพของแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบที่จะต้องเข้าไปกำกับดูแล
ทั้งนี้ ทางตำรวจมีมาตรการในการออกตรวจตราในช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ โดยจะบูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครอง กรมเจ้าท่า ฝ่ายความมั่นคง หากพบว่ามีแพใดเปิดใช้เสียงในเขตห้ามใช้จะดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งในวันที่ 23 พ.ย. ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาข้อร้องเรียน พร้อมกับทบทวนการทำงานที่ผ่านมา
สำหรับปัญหาอุปสรรคการปฏิบัติงานของตำรวจ คือ งบประมาณเรื่องน้ำมัน ซึ่งในแต่ละคืนที่ออกตรวจตราจะต้องเติมน้ำมันประมาณ 4,000 บาทต่อลำ ซึ่งทางตำรวจไม่มี รวมทั้งเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจวัดระดับความดังของเสียงซึ่งไม่มี ต้องประสานยืมมาจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมาใช้
“ที่ผ่านมาผู้ประกอบการส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือ มีเพียงบางรายที่ไม่เคารพกฎกติกา จึงทำให้เกิดเป็นปัญหาขึ้น อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนรำคาญ เมื่อพบเห็นว่ามีแพใดทำความผิดทั้งเรื่องเสียง ยาเสพติด อาวุธปืน ทะเลาะวิวาท ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีเพื่อจะได้เข้าไปดำเนินการต่อผู้กระทำผิดต่อไป”
น.ส.รัฎฐ์ชาพัชร กระจ่างฉาย นายกสมาคมชาวเรือชาวแพ จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการแพล่องได้เร่งแก้ปัญหาทางเสียงมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการปรับขนาดเบสของลำโพงลงเหลือเพียงแค่ 18 นิ้ว รวม 4 ตัว จากที่เคยใช้ขนาด 21 นิ้ว 24 นิ้ว และ 30 นิ้ว ตลอดทั้งเปิดเสียงลำโพงไม่เกิน 91 เดซิเบล ตามกฎที่กำหนดเอาไว้อย่างเคร่งครัด หากผู้ประกอบการรายใดไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงก็ให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายได้ทันที เพราะถือว่าทุกรายต่างก็ทราบกฎข้อบังคับเป็นอย่างดี
ล่าสุด หลังจากที่เป็นข่าวได้มีลูกค้าแจ้งยกเลิกการจองแพไปแล้วประมาณ 10% ขณะเดียวกัน ได้มีกระแสข่าวว่าทางจังหวัดจะเรียกประชุมเพื่อหาทางแก้ปัญหาในวันที่ที่ 23 พ.ย. ด้วยการไม่ให้แพล่องติดเครื่องเสียง พวกเราจึงเกิดความวิตกเป็นอย่างมาก เพราะจะส่งผลกระทบต่อผู้ชาวเรือชาวแพ รวมทั้งชาวบ้านที่ขายสินค้าให้แก่นักท่องเที่ยวก็จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ยังจะส่งผลทำให้จำนวนของนักท่องเที่ยวลดลง โดยวันที่ 22 พ.ย. สมาคมชาวเรือชาวแพจะประชุมหาทางออกร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง และอยากจะเชิญผู้ที่ร้องเรียนว่าได้รับผลกระทบทางเสียงมานั่งพูดคุยกันเพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้”