ผู้ปลูกพริกไทยเมืองจันท์อ่วม เจอเชื้อราจากอากาศแปรปรวน

จันทบุรี-อากาศแปรปรวนฝนตกสลับร้อน ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกพริกไทยขาย หลังเกิดโรคเชื้อราดำที่ใบ และโรคเชื้อราขาวที่ก้านของพริกไทยระบาดหนัก เกษตรกรต้องใช้ยาฉีดพ่นแต่หยุดยั้งได้ชั่วคราว ทำให้เกษตรกรต้องรีบเก็บพริกไทยขายก่อนกำหนด

วันนี้ (19 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสำรวจสวนพริกไทยของ นายประพัฒน์ วิจิตรบรรจง อายุ 32 ปี เกษตรกรผู้ปลูกพริกไทยขาย อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ที่ 8 ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พบว่า ในช่วงนี้สภาพอากาศพื้นที่จังหวัดจันทบุรี มีสภาพอากาศที่แปรปรวนฝนตกสลับร้อน ทำให้สวนพริกไทยที่ปลูกขายอยู่ในเนื้อที่ 5 ไร่ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก หลังเกิดโรคเชื้อราดำที่ใบ และโรคเชื้อราขาวที่ก้านของพริกไทยระบาด ทำให้พริกไทยที่ปลูกไว้เกิดความเสียหายไปแล้ว 1-2 ไร่

ปัจจุบัน นายประพัฒน์ วิจิตรบรรจง เกษตรกรผู้ปลูกพริกไทยขายต้องแก้ไขปัญหาโดยการใช้ยาฉีดพ่นเพื่อยับยั้งไม่ให้โรคเชื้อราได้ระบาดหนัก แต่ก็สามารถยับยั้งได้ชั่วคราว ไม่นานโรคเชื้อราดำ และโรคเชื้อราขาวก็กลับมาระบาดซ้ำอีก ในเบื้องต้น นายประพัฒน์ วิจิตรบรรจง เกษตรกรผู้ปลูกพริกไทยต้องรีบเก็บผลผลิตพริกไทยขายให้แก่พ่อค้าแม่ค้าที่มารับซื้อถึงสวนก่อนกำหนด ในราคากิโลกรัมละ 45 บาท ทั้งนี้ หากปล่อยไว้อาจจะทำให้ผลผลิตพริกไทยเกิดความเสียหายเพิ่มขึ้น และอาจจะทำให้นายประพัฒน์ ต้องขาดทุน

ในเรื่องนี้ นายประพัฒน์ วิจิตรบรรจง เกษตรกรผู้ปลูกพริกไทย กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่แปรปรวนในช่วงนี้ ทำให้พริกไทยที่ปลูกไว้เป็นโรคเชื้อราดำ และโรคเชื้อราขาว ทำให้ใบเป็นด่าง และไม่นานใบก็จะร่วง ทั้งนี้ หากไม่สามารถพ่นยาควบคุมได้ทันก็จะทำให้ต้นพริกไทยตาย ซึ่งตนเอง และเกษตรกรผู้ปลูกพริกไทยก็รู้ว่าจะต้องมีการใช้ยาฉีดพ่นโรคเชื้อรานี้บ่อยมากเพื่อควบคุมเชื้อราให้อยู่ มิฉะนั้นก็จะทำให้โรคเชื้อราล่ามไปทั้งสวนเกิดความเสียหายได้