xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มนครพนมขับปิกอัพไปธุระตอนพลบค่ำชนรถไถนาดับ 1 เหตุโดนไฟส่องหน้ามองทางไม่ชัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นครพนม - หนุ่มนครพนมขับปิกอัพไปธุระช่วงพลบค่ำ ตามถนนนครพนม-มุกดาหาร เจอรถบรรทุกขับสวนสาดไฟส่องหน้า มองเห็นทางไม่ชัด ชนรถไถนาที่อยู่ข้างหน้าพังยับ คนขับรถไถนาเจ็บสาหัสก่อนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ตร.เตือนรถเพื่อการเกษตรควรติดไฟท้ายหรือสติกเกอร์สะท้อนแสงให้เห็นได้ชัด

พ.ต.ท.ศิริชัย พรหมอารักษ์ พงส.สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 18.30 น. ช่วงหัวค่ำของวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา รับแจ้งเหตุรถชนกันบนถนนชยางกูร สายธาตุพนม-มุกดาหาร ช่วงบ้านโปร่ง-บ้านต้อง ต.ฝั่งแดง มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส 1 ราย จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับแพทย์เวรโรงพยาบาลธาตุพนม และหน่วยอาสาสมัครกู้ภัยยิ่งเจริญ กู้ภัยธาตุพนม พบรถกระบะมิตซูบิซิ ไทรทัน สีขาว ทะเบียน บฉ 2224 มุกดาหาร สภาพด้านหน้าพังยุบเสียหาย มีนายภักดี ถมสระดี อายุ 41 ปี เลขที่75 หมู่ที่ 11 ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม เป็นผู้ขับขี่ และนางเกนเกด แสงสุวรรณ อายุ 50 ปี ภรรยา นั่งเบาะด้านข้าง ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

ใกล้กันพบรถไถนาแบบคนนั่งขับไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพด้านท้ายพังเสียหาย ล้อหลังด้านขวาหลุดกระเด็นออก มีนายจันทะลม พ่อขันชาย อายุ 46 ปี เลขที่ 73 หมู่ที่ 9 ต.นาหนาด เป็นผู้ขับ ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลธาตุพนม แล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา

สอบถามนายภักดีเล่าว่า ตนขับรถยนต์มาจากทางบ้านโปร่ง มุ่งหน้ามาบ้านต้อง พอมาถึงที่เกิดเหตุจังหวะนั้นมีรถบรรทุกวิ่งสวนทางมา ไฟหน้ารถบรรทุกแสงสว่างมาก สะท้อนเข้าตา มองเห็นรถไถนาที่วิ่งอยู่ด้านหน้าในระยะกระชั้นชิด ตนเบรกไม่อยู่จึงทำให้เกิดเหตุดังกล่าว

พ.ต.ท.ศิริชัยกล่าวย้ำว่า อยากฝากเตือนพี่น้องประชาชนที่ขับรถยนต์สัญจรผ่านทางหลวงหรือทางรองในห้วงนี้ให้ขับช้าๆ ดูเส้นทางให้ดี ยิ่งช่วงหัวค่ำชาวนาจะขับรถไถนาริมทางมืดๆ ซึ่งอันตรายมาก ในขณะที่ชาวบ้านที่ขับรถไถนากลับจากทุ่งนาก็ต้องระวังเช่นกัน ควรติดไฟท้ายให้หรือแถบสีหรือสติกเกอร์สะท้อนแสงให้เห็นชัดเจน ทั้งนี้ เพื่อลดอุบัติเหตุและเพื่อความปลอดภัยทั้งสองฝ่าย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ช่วงหน้าหนาวนี้เป็นช่วงที่เกษตรกรหลายพื้นที่ในภาคอีสานเก็บเกี่ยวข้าวตามท้องทุ่งนา ส่วนใหญ่จะนิยมนำรถไถนาต่อพ่วงบรรทุกสมาชิกในครัวเรือน ตลอดจนเครื่องไม้เครื่องมือที่จำเป็น ขับจากบ้านมุ่งสู่ทุ่งนาแต่เช้าตรู่ จนกระทั่งพลบค่ำประมาณ 18.00 น. ก็จะบรรทุกสิ่งของจากท้องทุ่งนากลับบ้าน โดยใช้ถนนสายหลักหรือสายรองเพื่อกลับหมู่บ้าน

โดยรถไถนาเหล่านั้นไม่ได้ติดไฟท้ายหรือแถบสะท้อนแสง ขับขี่กันในสภาพทัศนวิสัยมืดๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมากสำหรับประชาชนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์และรถยนต์ส่วนตัวสัญจรผ่านเส้นทางเช่นกัน โดยเฉพาะรถจากต่างจังหวัดที่ขับด้วยความเร็ว และไม่รับทราบวิถีชีวิตชาวนาในช่วงนี้ ทำให้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกันได้ง่าย จนได้รับอันตรายบาดเจ็บหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้ ล่าสุดเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นแล้วที่จังหวัดนครพนม


กำลังโหลดความคิดเห็น