ฉะเชิงเทรา-หนุ่มวัย 36 ซิ่งมาสด้า 3 ก้มหยิบขวดน้ำดื่มที่ตกลงพื้นที่พักเท้า เงยขึ้นมาอีกครั้งตัวรถพุ่งชนเสยท้ายเพื่อนร่วมทางเสียหลักตกลงร่องกลางถนนหงายท้อง เจ็บสาหัส 4 ราย ทำการจราจรบนถนน 304 เส้นทางสายสำคัญเมืองแปดริ้วในชั่วโมงเร่งด่วนติดขัดยาวไกลอย่างหนักแบบข้ามอำเภอ นานถึงกว่า 4 ชม.
พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ บัวขาว พนักงานสอบสวน สภ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางเข้าตรวจสอบอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งพุ่งชนท้ายรถยนต์กระบะจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย และทำให้การจราจรบนถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-ฉะเชิงเทรา ติดขัดอย่างหนัก เป็นระยะทางยาวไกลถึงกว่า 20 กม. เนื่องจากเป็นช่วงชั่วโมงเร่งด่วนที่กำลังมีผู้ใช้เส้นทางบนถนนสายดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
ที่เกิดเหตุอยู่ระหว่างหลัก กม.ที่ 14-15 พื้นที่ ม.5 ต.เสม็ดเหนือ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา พบรถยนต์เก๋งมาสด้า 3 สีขาว ทะเบียน ฎฐ 4448 กทม. จอดแอบชิดอยู่ที่ริมไหล่ทางด้านซ้ายฝั่งขาเข้าตัวเมืองฉะเชิงเทรา ขณะที่ในร่องกลางถนนห่างออกไปอีกประมาณ 15 เมตร พบรถยนต์กระบะโตโยต้า แบบแค็บ สีบรอนซ์ ทะเบียน ภฉ 6995 กทม ตกลงไปอยู่ภายในร่องกลาง ลักษณะนอนหงายท้องล้อชี้ฟ้า สภาพหลังค้าด้านบนยุบ มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดคาอยู่ภายในรถ จำนวน 4 ราย
ทราบชื่อเพียงคนขับ คือ นายสุรพล นวลชัยถูมิ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/1 ม.5 ต.บ้านเขว้า อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ก่อนถูกให้การช่วยเหลือนำตัวส่งไปยัง รพ.บางคล้า
ร.ต.ท.สิทธิศักดิ์ กล่าวว่า จากการสอบสวน นายประสิทธิ์ ล่ำภากร อายุ 36 ปี คนขับรถเก๋งสีขาว เบื้องต้นยอมรับสารภาพว่า ขณะเกิดเหตุได้ก้มลงหยิบขวดน้ำดื่มที่ตกอยู่ที่พื้นรถที่พักเท้าใต้เบาะนั่งเพื่อที่จะนำมาดื่ม แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาปรากฏว่ารถได้พุ่งชนเสยท้ายรถยนต์กระบะคันหน้า จนทำให้รถคันที่ถูกชนเสียหลักตกลงไปยังในร่องกลางถนน และพลิกคว่ำหงายท้องดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นเชื่อว่าคนขับรถมาสด้าน่าจะใช้ความเร็วค่อนข้างสูง จึงทำให้เกิดแรงชนเสยรถคันหน้าจนเสียการทรงตัวได้
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากอุบัติเหตุดังกล่าวได้ทำให้การจราจรบนถนนสาย 304 ช่วงตอนตั้งแต่สี่แยกบางคล้า มุ่งหน้ามายังในเขตตัวเมืองฉะเชิงเทรา การจราจรติดขัดอย่างหนัก และต่อเนื่องยาวไกลไปจนถึงสามแยกหนองปลาตะเพียน มีรถสะสมอยู่ในเส้นทางเป็นจำนวนมาก รวมระยะทางไกลถึงกว่า 20 กม. เนื่องจากช่วงที่เกิดอุบัติเหตุเป็นช่วงชั่วโมงเร่งด่วน อีกทั้งยังทำให้การเดินทางเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้สื่อข่าวนั้นเข้าถึงยังในจุดที่เกิดเหตุได้อย่างยากลำบากอีกด้วย