xs
xsm
sm
md
lg

แท็กซี่พุ่งชน จยย.ลอยตกหน้ารถดับ 2 ศพ ที่นครพนม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นครพนม - แท็กซี่ซิ่งพุ่งชนจักรยานยนต์ลอยสูงลิ่วตกใส่หน้ารถ ส่วนร่างคนกระเด็นฟาดพื้นถนนดับสยอง 2 ศพ บนถนนหลวงหมายเลข 212 สายนครพนม-สกลนคร อ.เมืองนครพนม

เมื่อเวลา 17.10 น. วันนี้ (15 พ.ย.) ร.ต.ท.หญิง จุฬารัตน์ อาจภิรมณ์ ร้อยเวร สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนกันมีผู้เสียชีวิตบนถนนหลวงหมายเลข 212 สายนครพนม-สกลนคร ในพื้นที่ ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม หลังรับแจ้งรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลนครพนม กู้ภัยนครพนม

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน บริเวณสามแยกปากทางเข้า บ.นาราชควาย บ.ดอนโมง หมู่ 4 ฝั่งขาออกตัวเมือง เยื้องร้านน้องบีซูเปอร์มาร์เก็ต พบรถแท็กซี่บริษัท แท็กซี่เมืองนครพนม ยี่ห้อฮอนด้า สีเหลืองคาดฟ้า ป้ายทะเบียนเหลือง ทข 2 นครพนม จอดอยู่ริมไหล่ทาง สภาพหน้ารถพังยับเยิน หม้อน้ำแตก กระจกหน้ารถบุบเป็นรอยร้าว พบ นายศุภลักษณ์ อ่อนอั้วะ วัย 51 ปี คนขับไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ยืนรอให้การในที่เกิดเหตุ

ห่างออกไป 10 เมตรพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีม่วง ทะเบียน จรก 413 ชลบุรี สภาพล้มคว่ำตะแคงข้างกลางถนน สภาพรถพังยับ เบาะนั่งปลิวลอยไปค้างที่พุ่มไม้เกาะกลางถนน ห่างจุดที่พบรถ 2 คัน พบรอยเลือดกลางถนน พบร่าง นายเจริญ หิรัญเรืองแสง อายุ 58 ปี ชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม บ.นาจอก หมู่ 5 อ.เมือง จ.นครพนม คนขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว เลือดทะลักออกปากอาบใบหน้า นอนหายใจรวยริน

ใกล้กันพบร่าง น.ส.เบ๊นซ์ อายุ 35 ปี เลือดอาบหน้า ที่เอวซ้ายมีบาดแผลฉกรรจ์ยาว 20 เซนติเมตร (ซม.) ลึก 5 ซม. มีลมหายใจรวยริน ระหว่างนั้นทหารเกณฑ์ ร.3 พัน 3 ที่ขับรถบรรทุกยีเอ็มซีกว่า 5 นาย ผ่านมาประสบเหตุ และกู้ภัยนครพนมช่วยกันสลับปั๊มหัวใจนานกว่า 30 นาที แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทั้งคู่

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถแท็กซี่ฮอนด้า มีนายศุภลักษณ์เป็นคนขับ วิ่งออกจากตัวเมืองนครพนม มุ่งหน้าจะกลับไปบ้านที่ บ.นามะเขือ อ.ปลาปาก จ.นครพนม ระหว่างมาถึงที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขับมาจากฝั่ง ต.หนองญาติ เพื่อจะเลี้ยวอ้อมบริเวณสามแยกยูเทิร์นดังกล่าว ก่อนขับเลี้ยวตัดหน้าและรถแท็กซี่พุ่งชนรถจักรยานยนต์อย่างจังเสียงดังสนั่น รถจักรยานยนต์กระเด็นลอยใส่กระจกหน้ารถ ส่วนร่างผู้เสียชีวิตทั้งคู่กระเด็นตกลงกระแทกพื้น เป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาสาเหตุให้แน่ชัดอีกครั้งเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น