เชียงราย - ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านแม่จัน ตั้งด่านตามแผน “ห้วยโจ้โมเดล” พบชายฉกรรจ์ขับ จยย.3 คันผ่านพื้นที่กลางดึก คันแรกไร้พิรุธ พอขอตรวจ จยย.คันที่ 2 กลับทิ้งกระสอบยาบ้าแสนเม็ด บึ่งรถแหกด่านหนี คันที่ 3 ตามมาเลยโดนรวบ พบมี ส.อบต.ด้วย แต่ปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็น
นายสมศักดิ์ คณาคำ นายอำเภอแม่จัน จ.เชียงราย พ.อ.จักรเรศ ศิริพงษ์ เสธ.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง พ.อ.พักตร์พงษ์ เงสันเที๊ยะ รอง ผบ.ฉก.ทพ.31 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่จัน ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) 327 อ.แม่จัน ร่วมกันตรวจการปฏิบัติการของด่านตรวจชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้านธรรมจาริก ม.13 ต.แม่จัน อ.แม่จัน บนถนนสายบ้านธรรมจาริก-บ้านจ่อป่าคา เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา(7 พ.ย.)
หลังรับแจ้งว่า ด่านตรวจที่ตั้งขึ้นตามแผนปฏิบัติงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านระดับรุนแรงในพื้นที่พิเศษ (ห้วยโจ้โมเดล) ของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สามารถจับกุมผู้ต้องหา และยึดของกลางยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก
โดยผู้ที่ถูกจับกุมดำเนินคดีมีชื่อว่า นายลิบู จู่จา อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 16 ม.18 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย และนายจะบู แซ่ซือ อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 4 ม.18 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แห่งหนึ่งด้วย พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 100,000 เม็ด
ทั้งนี้ การจับกุมมีขึ้นขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ตั้งด่านตรวจกันอยู่บริเวณหน้าหมู่บ้าน กระทั่งเวลา 2 ทุ่มเศษ ได้พบรถจักรยานยนต์ จำนวน 3 คัน มีชายฉกรรจ์ขับขี่มากันคันละ 2 คน ลงมาจากเนินเขาบ้านจ่อป่าคา จะผ่านหมู่บ้านธรรมจาริก
โดยคันแรกขับผ่านไปตามปกติ แต่คันที่ 2 กลับมีท่าทางพิรุธเจ้าหน้าที่จึงจะเข้าไปตรวจสอบ แต่รถคันดังกล่าวได้ขับฝ่าด่านตรวจไปอย่างรวดเร็ว และช่วงหลบหนีได้ทิ้งกระสอบฟางเอาไว้ในที่เกิดเหตุ 1 ใบ ช่วงเดียวกันรถจักรยานยนต์คันที่ 3 ที่มี นายลิบู เป็นคนขับ และนายจะบู นั่งซ้อนท้ายมา เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวเอาไว้
แต่เบื้องต้น ทั้งคู่ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้รู้เห็นกับยาเสพติดจำนวนดังกล่าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงได้จับกุมตัวพร้อมของกลางส่ง สภ.แม่จัน ดำเนินการสืบสวนสอบสวน
พ.อ.พักตร์พงษ์ กล่าวว่า พฤติการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบน่าจะเป็นลักษณะของขนลำเลียงยาเสพติดโดยใช้รถจักรยานยนต์หลายคันขับตามๆ กันมา แต่มีความผิดพลาด เพราะขับตามชิดกันมากเกินไป
อย่างไรก็ตาม กรณีของผู้ที่ถูกจับกุมตัวนั้นได้ให้การปฏิเสธ โดยระบุว่า ไม่ได้รู้เห็นต่อยาเสพติดดังกล่าว โดยอ้างว่า จะไปเยี่ยมเพื่อนในพื้นที่ แต่จากการตรวจสอบภูมิลำเนาของทั้งคู่ก็พบว่าไม่ใช่คนใน อ.แม่จัน จึงต้องทำการตรวจสอบขยายผลกันตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป