ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมียฝรั่งเมืองพัทยา แจ้งจับเพื่อนสาวแสบแอบลักบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินเกลี้ยงบัญชี ก่อนขึ้นรถตู้โดยสารเตรียมหลบหนีกลับบ้าน แต่ถูกรวบได้ระหว่างทาง
วันนี้ (3 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ให้สกัดจับ นางกฤษณา เสือสง่า อายุ 31 ปี ที่กำลังขึ้นรถตู้โดยสารเดินทางไปยังอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี หลังก่อเหตุลักบัตรเอทีเอ็ม ของ น.ส.วาสนา มณีจักร เพื่อนที่ทำงานอยู่ที่เมืองพัทยา และมีสามีเป็นชาวต่างชาติ โดยแอบไปกดเงิน จำนวน 16,000 บาทไปด้วย ซึ่ง น.ส.วาสนา ได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ธนาคารแล้วว่ามีการกดเงินออกไปจริง
เมื่อได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.ศรีราชา ได้วิทยุสกัดจับ และสามารถจับกุมตัวนางกฤษณา ไว้ได้ขณะโดยสารอยู่บนรถตู้โดยสารที่บริเวณริมถนนสุขุมวิท หน้าที่ว่าการอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ค้นในกระเป๋าที่ตัวนางกฤษณา พบบัตรเอทีเอ็มของ น.ส.วาสนา และอุปกรณ์การเสพยาเสพติดอยู่ด้วย จึงควบคุมตัว และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวน สภ.เมืองพัทยา มารับตัวไปดำเนินคดี
นางกฤษณา เสือสง่า ผู้ต้องหาให้การว่า ตนมีอาชีพค้าขายส้มตำอยู่บริเวณชายหาดชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ได้เดินทางขึ้นมาเที่ยวที่พัทยา โดยเข้าพักกับ น.ส.วาสนา มณีจักร ที่เป็นเพื่อนรู้จักกันสมัยตนเองอยู่ที่พัทยา ซึ่งเดินทางมาตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม และเมื่อเช้าวันนี้ (3 พ.ย.) น.ส.วาสนา ได้ให้บัตรเอทีเอ็มตนไปกดเงิน จำนวน 500 บาท เพื่อไปจ่ายค่าห้องที่เช่าเพื่อย้ายเสื้อผ้ามาพักอยู่ที่โรงแรมแห่งใหม่ แต่พอกดเงินออกมาก็ไม่ได้เอาไปจ่ายค่าห้อง แต่ตนเอาเงินที่ได้มานั่งรถตู้เตรียมกลับบ้านที่ชะอำ จนมาถูกจับได้ในที่สุด
ต่อมา น.ส.วาสนา มณีจักร ผู้เสียหายได้มาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา เพื่อชี้ตัวที่ สภ.ศรีราชา เมื่อมาเจอตัว นางกฤษณา พร้อมทั้งชี้หน้าต่อว่าอย่างรุนแรง พร้อมทั้งตัดพ้อว่าไม่น่าทำกันเลย และได้กล่าวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า ตอนเช้าวันนี้ได้ไปกดเงินที่แฟนชาวต่างชาติโอนเงินมาให้ โดยตนแบ่งเงินเอาไว้ใช้ส่วนหนึ่ง
อีกส่วนได้เอาเงินใส่ไว้ในบัตรเอทีเอ็ม ซึ่งนางกฤษณา รู้รหัสบัตรเนื่องจากเมื่อวานแฟนได้โอนเงินมาให้ก่อนจะขอบัตรตนไปกด พอรุ่งเช้าตนได้ให้เงิน นางกฤษณา ไปชำระค่าห้องพร้อมกับให้เอาเสื้อผ้าออกมา จนผ่านไปเป็นชั่วโมงนางกฤษณา ก็หายเงียบไปแล้วก็หนีไปเลย โทรศัพท์ก็ไม่ยอมรับ ตนเลยโทรเช็กไปที่ธนาคารทราบว่าเงิน จำนวน 16,000 บาท ได้ถูกกดออกไปแล้ว จึงแจ้งความจับตัวดังกล่าว
สำหรับผู้ต้องหาดังกล่าวมีประวัติไม่ธรรมดา เคยถูกจับในข้อหาเสพ และจำหน่ายยาเสพติดที่ สภ.บางละมุง ก่อนถูกจับอีกครั้งในข้อหาเดิมอีกครั้ง โดยถูกจำคุกถึง 2 ปี ในพื้นที่ สภ.บางละมุง ก่อนออกมาได้ปีกว่าๆ ได้ถูกจับข้อหาเล่นการพนันไฮโลที่ สภ.ชะอำ และล่าสุด กับคดีนี้ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์ และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชนต่อไป