ฉะเชิงเทรา - ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐเมืองแปดริ้ว ยังคงขายเกินราคาถึงคู่ละกว่าหนึ่งร้อยบาท เผยถูกโขกขายส่งมาให้จากต้นทางในราคาแพงถึงคู่ละ 78 บาท จากกลุ่มตัวแทนของ 5 เสือ ยี่ปั๊วหน้ากองสลากแบบทิ้งทวน หากผู้ค้ารายย่อยขายที่คู่ละ 80 บาท จะไม่เหลืออะไรกิน พร้อมระบุถึงกรณีที่รัฐไม่ต่อสัญญา 5 เสือถือเป็นสิ่งที่คนขายดีใจที่สุด
วันนี้ (31 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนถึงวันออกเลขสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 1 พ.ย.58 หลังจากที่รัฐบาลประกาศไม่ต่อสัญญาให้กลุ่ม 5 เสือยี่ปั๊วกองสลาก ว่า ผู้ค้าสลากจำนวนมากต่างพากันบ่นเป็นเสียงเดียวไปตามๆ กัน โดยต่างระบุว่า ได้ถูกกลุ่มยี่ปั๊วทิ้งทวนขูดราคาขายส่งสลากให้จากต้นทางหน้ากองสลากถึงคู่ละ 78-83 บาท จึงทำให้ผู้ค้ารายย่อยต้องขายเกินกว่าราคาที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่หน้าสลาก
โดยนางแดง (นามสมมติ) แม่ค้าเร่ปั่นจักรยานขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ชาว จ.เลย ที่ออกเร่ขายปลีกสลากในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ได้ไปรับสลากกินแบ่งรัฐบาลมาจากตัวแทนจำหน่ายของยี่ปั๊วที่บริเวณหน้ากองสลาก โดยได้มาในราคาต้นทุนที่ฉบับละ 78 บาท จึงทำให้ต้องขายสลากให้แก่ผู้ซื้อที่ใบละ 90 บาท เพราะหากขายที่ราคา 80 บาท ตนเองก็จะไม่ได้อะไร เพราะจะเหลือกำไรแค่คู่ละ 2 บาทเท่านั้น แล้วจะเอาอะไรกินใช้
นอกจากนี้ ในบางวันที่ผู้ค้ารายย่อยไปรับสลากมาจากพวกยี่ปั๊วยังถูกโขกราคาขายส่งให้ถึงใบละ 83 บาท อย่างนี้จะให้คนขายรายย่อยขายราคาคู่ละเท่าไหร่ ตนจึงต้องขายสลากในราคาคู่ละ 80 บาท และขอเป็นค่าเดินอีกใบละ 10 บาท รวม 90 บาทจากผู้ซื้อ ส่วนสลากแบบรวมชุด 5 ใบนั้น ขายในราคารวมค่าเดินแล้วที่ชุดละ 500 บาท ซึ่งแม่ค้าก็จะได้กำไรที่คู่ละประมาณ 10 กว่าบาทเท่านั้น
“อยากให้ทางรัฐบาลรีบทำการยกเลิกโควตา 5 เสือโดยเร็วไว เพราะทำให้ผู้ค้ารายย่อยเดือดร้อนกันอย่างมากในขณะนี้ ซึ่งหากยกเลิกได้จริงถือเป็นสิ่งที่คนขายหวยตัวจริงดีใจมากที่สุดเลย”
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวยังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่เดินทางไปหาซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ยังที่บริเวณวัดโสธรวรารามวรวิหาร ด้วยว่า ยังคงมีแม่ค้าขายสลากแบบรวมชุดในราคาสูงถึงใบละ 120 บาท และบางรายขายในราคาคู่ละ 100-110 บาท โดยที่ผู้ค้าจะเลือกโขกเรียกขายแบบเหมารวมเลขชุดให้แก่ผู้ซื้อที่มีลักษณะเป็นนักท่องเที่ยวแบบเป็นรายๆ ไป หรือเลือกเรียกขายให้แบบเฉพาะบุคคล
โดยจะไม่กล้าเรียกขายเกินราคาสำหรับคนในพื้นที่ หรือคนที่คุ้นหน้า หรือผู้ที่มีลักษณะท่าทางรูปร่างคล้ายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงทำให้ผู้ที่เดือดร้อนส่วนใหญ่นั้นจะเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดเท่านั้น