อุดรธานี - รอง ผอ.โรงพยาบาลอุดรธานีเผยเฉพาะคืนออกพรรษา 27 ต.ค. รับผู้บาดเจ็บจากแรงประทัดระบิดมากถึง 19 ราย สาหัสสุดถึงขั้นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ อวัยวะเพศชายฉีกขาด ขณะที่ยอดรวมผู้บาดเจ็บจากการเล่นประทัด 1-27 ต.ค.นี้ รวมแล้วมากถึง 39 ราย
วันที่ (28 ต.ค.) นายแพทย์ณรงค์ ธาดาเดช รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลอุดรธานี เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลออกพรรษาจนในค่ำคืนวันที่ 27 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา โรงพยาบาลอุดรธานี ได้รับผู้ป่วยที่ถูกประทัดระเบิดใส่มือ ตา ผิวหนัง ลำตัว มาทำการรักษารวมแล้ว จำนวน 19 ราย โดยมี 1 รายที่มีอาการสาหัสต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ เป็นชาย อายุ 20 ปี ส่งต่อมาจากอำเภอน้ำโสม สาเหตุเกิดจากการประกอบพลุขึ้นมาเองระเบิดใส่ตัวเอง ทำให้ศีรษะยุบ มีแผลตามร่างกายและมือ
อีกรายที่อาการสาหัสเช่นกัน เป็นเด็กชายอายุ 14 ปี ชาวอำเภอบ้านผือ เกิดจากกรณีซื้อประทัดชนิดลูกบอลมา 180 ลูกเอาใส่กระเป๋า เพื่อนจุดดอกไม้ไฟกระเด็นเข้าไปในกระเป๋าที่มีประทัดชนิดลูกบอลอยู่ทำให้ระเบิดใส่ตัวเองจนมือ และนิ้วขาด ช่องท้องมีบาดแผลลึก ส่วนรายที่ 3 อวัยวะเพศชายถูกแรงประทัดระเบิดใส่จนฉีกขาด
รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลอุดรธานี กล่าวย้ำว่า ต้องขอความร่วมมือร้านค้าห้ามจำหน่ายประทัดชนิดสามเหลี่ยม และลูกบอลในช่วงเทศกาลสำคัญๆ โดยประทัด พลุ และดอกไม้ไฟ เป็นวัตถุอันตรายที่จัดอยู่ในหมวดหมู่ของวัตถุระเบิดชนิดหนึ่ง ซึ่งอาจเกิดอันตรายต่อร่างกาย 3 ทาง
คือ ทางผิวหนังคือ เกิดแผลไหม้จากแรงระเบิด ทางนิ้วมือ คือ อาจทำให้นิ้วมือ หรืออวัยวะขาด เนื่องจากแรงระเบิด และทางตา ซึ่งเป็นอวัยวะที่บอบบางที่สุด อาจทำให้ตาดำไหม้ ขุ่นมัวเลือดออกช่องหน้าม่านตา และอาจทำให้ตาบอดถาวรได้
โดยสรุปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1-27 ต.ค.58 โรงพยาบาลรับผู้ป่วยมารับการรักษาแล้ว 39 ราย มีอาการนิ้วขาด 10 ราย บาดเจ็บที่ตา 4 ราย บาดเจ็บที่มือและนิ้ว 18 ราย ช่องท้อง 2 ราย และอื่นๆ อีก 5 ราย ส่วนเหตุเกิดจากประทัดลูกบอล 38 ราย ในจำนวนนี้ทำการดัดแปลงประทัด 10 ราย และจากพลุ 1 ราย