ยังพบคราบน้ำมันในทะเล “ทม.หัวหิน-เจ้าท่า” แจ้งความหาตัวผู้กระทำความผิด

ประจวบคีรีขันธ์ - นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน และ ผอ.สำนักงานเจ้าท่าที่ 3 เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจ สภ.หัวหิน กรณีคราบน้ำมันปริศนาลอยเกลื่อนหาดหัวหิน เพื่อให้ดำเนินคดีต่อเจ้าของเรือที่ก่อเหตุ ตาม พ.ร.บ.การเดินเรือฯ และ พ.ร.บ.รักษาความสะอาด ด้านเจ้าท่าฯ ระบุได้รับแจ้งข้อมูลว่าเมื่อ 5 วันที่ผ่านมา พบเรือเหล็กบรรทุกน้ำมันมีน้ำมันรั่วไหลออกมาบริเวณอ่าวแม่กลอง สั่งเร่งตรวจสอบแล้ว ขณะที่สำนักงานปริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี สั่งอุทยานแห่งชาติทางทะเลในพื้นที่ติดตามตรวจสอบมีคราบน้ำมันลอยเข้ามาติดชายหาดในความรับผิดชอบหรือไม่

เมื่อเวลา 13.30 น วันนี้ (28 ต.ค.) นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีหัวหิน พร้อมด้วย นายสุริยะ โกพัฒน์ตา ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าประจวบคีรีขันธ์ นายพิชัย แสงไฟ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กรณีมีคราบน้ำมันถูกซัดเข้าชายหาดหัวหิน ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร เพื่อให้ดำเนินคดีต่อเจ้าของเรือที่ก่อเหตุ โดยมี พ.ต.อ.ไชยกร ศรีหล้าเดโช ผกก.สภ.หัวหิน พ.ต.ท.ธนกฤต ธำรงคณานนท์ หัวหน้าพนักงานสอบสวน และ ร.ต.ท.ประสงค์ จารุรัตน์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.หัวหิน เป็นผู้รับผิดชอบคดี

นายสุริยะ โกพัฒน์ตา ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องการตรวจสอบที่มาของคราบน้ำมันดังกล่าวว่า วันนี้ได้รับแจ้งข้อมูลว่าเมื่อประมาณ 4-5 วันที่ผ่านมาพบเรือเหล็กบรรทุกน้ำมัน ขนาดความยาวไม่น้อยกว่า 60-70 เมตร ในช่วงอ่าวแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม ถึงอ่าวมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร มีน้ำมันรั่วไหลออกมาตลอดทาง แต่ไม่สามารถระบุข้อมูลได้ชัดเจนเนื่องจากเป็นช่วงเวลากลางคืน ขณะนี้ได้สั่งการให้ตรวจสอบเรือที่เดินเรือในช่วงเวลาดังกล่าวแล้ว

สำหรับในวันนี้ได้แจ้งความเอาผิดตามมาตรา 119 พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 มีความผิดจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และต้องชดใช้เงินค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปกับการแก้ไขสิ่งเป็นผิด ในส่วนของเทศบาลเมืองหัวหิน ได้แจ้งความเอาผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.รักษาความสะอาด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสถานการณ์คราบน้ำมันช่วงเวลา 16.30 น.พบว่า แม้จะมีการจัดเก็บคราบน้ำมันออกไปแล้ว แต่ก็ยังมีคราบน้ำมันลอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าบริเวณชายหาดตั้งแต่สะพานปลาหัวหิน ขึ้นมาทางทิศเหนือยังมีคราบน้ำมันลอยเข้ามาเป็นกลุ่มปะปนกับเศษขยะ ซึ่งนอกเหนือจากการเก็บกวาดด้วยกำลังคน ล่าสุด ทางสำนักงานเจ้าท่าประจวบคีรีขันธ์ ได้นำแผ่นดูดซับน้ำมันมาดูดคราบน้ำมันชายหาดด้วย เพื่อเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการเก็บคราบน้ำมันบริเวณชายหาดหัวหิน

ด้าน นางจิรัฎฐ์ ปรานต์ประสิทธิ์ นักวิชาการสิ่งแวดล้อมฯ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประจวบคีรีขันธ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบคราบน้ำมันบริเวณชายหาดหัวหิน ซึ่งก็พบว่าแม้จะมีปริมาณไม่มากนักแต่ก็ยังมีคราบน้ำมันลอยเข้ามา

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีที่ทัพเรือภาคที่ 1 ซึ่งขึ้นสำรวจทางอากาศพบว่ายังมีคราบน้ำมันลอยอยู่ในทะเลห่างฝั่งประมาณ 3-4 ไมล์ทะเล นางจิรัฎฐ์ กล่าวว่า ในส่วนของอ่าวหัวหินเองก็จะต้องลงเรือสำรวจปริมาณคราบน้ำมันด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทุกภาคส่วนได้ลงมาร่วมแก้ไขปัญหานี้กันอย่างเต็มที่ ถือว่ามีความพร้อมในการรับมือ และแก้ไขสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี

นายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการไปยังอุทยานแห่งชาติทางทะเลในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้ติดตามสถานการณ์คราบน้ำมันที่ลอยเข้าหาชายฝั่งหัวหิน รวมถึงกรณีที่ทางกองทัพเรือได้นำอากาศยานบินตรวจสอบในวันนี้ และพบคราบน้ำมันที่คาดว่าจะลอยเข้าหาชายฝั่งอีกระลอก และหากพบให้รายงานให้ทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี รับทราบต่อไป และขอให้เตรียมความพร้อมในด้านการทำความสะอาดควบคู่กันไปด้วยหากมีคราบน้ำมันลอยมาติดชายหาด

ขณะที่ผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวในพื้นอำเภอหัวหิน กล่าวว่า หลังได้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากสื่อมวลชนเรื่องคราบน้ำมันสีดำที่ลอยเข้าชายหาดหัวหินก็รู้สึกเป็นห่วง และขณะนี้ก็ยังพบอีกว่ายังมีคราบน้ำมันลอยอยู่ห่างจากชายฝั่งหัวหินอีกส่วนหนึ่งด้วย

ดังนั้น จึงอยากให้หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม ทั้ง ทสจ. กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงพลังงาน ที่รับผิดชอบการจัดการคราบน้ำมันนำอุปกรณ์ลงมาเตรียมพร้อมรับมือ และจัดการคราบน้ำมันที่จะลอยมาเพิ่มเติม เพราะตนเป็นห่วงว่าอาจจะเกิดผลกระทบเหมือนกับทางจังหวัดระยอง