ศูนย์ข่าวศรีราชา- ทหารเรือ จับกะเทยแสบลวงโลกทำทีเป็นสาวถูกวินจักรยานยนต์รับจ้างมัดมือมัดเท้าชิงทรัพย์ ก่อนเรียกคะแนนความสงสารขอเงินค่ารถกลับบ้าน ทหารเรือหลงเชื่อใจดีควักเงินช่วย 2 ครั้งซ้อน ก่อนชะล่าใจย้อนก่อเหตุซ้ำ แต่สุดท้ายจนมุม
วันนี้ (27 ต.ค.) น.อ.สุวัจ ดอนสกุล ผู้อำนวยการกองยุทธการและข่าว ฐานทัพเรือสัตหีบ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ฐานทัพเรือสัตหีบ ร่วมหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และกรมสรรพาวุธทหารเรือ ทำการจับกุม นายมณเฑียร วงภูธร อายุ 20 ปี สาวประเภทสอง ชาวจังหวัดอุบลราชธานี ในความผิดฐานหลอกลวง และบุกรุกสถานที่ราชการ พร้อมกระเป๋าเดินทางได้ภายในป่าริมรั้วค่ายกรมสรรพาวุธทหารเรือ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
น.อ.สุวัจ ดอนสกุล เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ต.ค.58 ผู้ต้องหาได้ทำทีเป็นหญิงสาว จนทุกคนเชื่อสนิทใจ เนื่องจากมีน้ำเสียงเป็นหญิง เข้ามาขอความช่วยเหลือต่อทหารยามรักษาการณ์ประตูทางเข้าหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ว่า ถูกวินจักรยานยนต์รับจ้างเบอร์ 40 หน้าหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
ทราบชื่อภายหลังคือ จ่าเอกมีชัย บัวภา อายุ 42 ปี ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา จับมัดมือมัดเท้าชิงโทรศัพท์มือถือ และเงินสด จำนวน 9,100 บาท ก่อนทิ้งให้อยู่ในป่า จึงมาขอความช่วยเหลือ และแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.สัตหีบ พร้อมขอเงินค่ารถกลับบ้าน ด้วยความสงสารทหารทุกคนจึงช่วยกันรวบรวมเงินสดให้ไปรวม 600 บาท
กระทั่งเมื่อวันเสาร์ที่ 24 ต.ค.58 ผู้ต้องหาได้เข้ามาที่เขาแหลมปู่เจ้า ค่ายนาวิกโยธิน ทำทีมาขอความช่วยเหลือทหารยาม บอกถูกวินจักรยานยนต์คนเดิมก่อเหตุซ้ำ ครั้งนี้อ้างได้เงินสดไปจำนวน 5,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง แต่ไม่ติดใจเอาความ ขอให้ทหารช่วยเรี่ยไรเงินเป็นค่ารถกลับบ้าน ครั้งนี้เรียกความสงสารได้เงินสดไปเกือบ 1,000 บาท จึงได้กระจายข้อมูลลักษณะรูปพรรณคนร้ายให้ทุกหน่วยในพื้นที่รับทราบ
จนช่วงเย็นของวันนี้ ได้รับรายงานจากยามรักษาการณ์ประตูทางเข้าค่ายกรมสรรพาวุธทหารเรือ สามารถจับกุมสาวต้องสงสัยไว้ได้ เข้ามาทำทีในลักษณะเช่นเดิมทุกครั้ง
จากการสอบสวนรับสารภาพว่า แท้จริงตนเองเป็นสาวประเภทสอง แต่ทำทีเป็นหญิงสาวสร้างเรื่องเรียกร้องความสงสาร เพื่อหาเงินเข้ากระเป๋า เพราะคิดว่าทหารเรือใจดี
ส่วนทางด้าน จ่าเอกมีชัย บัวภา ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยก่อเหตุได้มาชี้ตัวพร้อมยืนยันว่า ถูกว่าจ้างให้มาส่งจริง แต่ผู้ต้องหาอ้างไม่มีเงินจ่ายจึงไม่ได้ค่าจ้าง ซึ่งไม่ติดใจเอาความ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำประวัติ และทำการตักเตือน ก่อนติดต่อญาติให้มารับตัวกลับบ้าน