ราชบุรี - ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ร่วมกับ อบต.สร้อยฟ้า อำเภอโพธาราม และวัดขนอน เตรียมจัดแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชการี ในวันที่ 21 พ.ย.นี้ ที่บริเวณริมแม่น้ำแม่กลอง
วันนี้ (26 ต.ค.) ที่โรงมหรสพหนังใหญ่ วัดขนอน ต.สร้อยฟ้า อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด็อกเตอร์บุญเชิญ ดิษสมาน รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ พร้อมด้วย พระครูพิทักษ์ศิลปาคม เจ้าอาวาสวัดขนอน และนายประชุม พิมพ์โดด นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (นายก อบต.) สร้อยฟ้า อ.โพธาราม ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจัดการแข่งขันเรือยาวประเพณี ประจำปี 2558 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชการี ซึ่งกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2558 ณ บริเวณริมแม่น้ำแม่กลอง ต.สร้อยฟ้า อ.โพธาราม จ.ราชบุรี มีการแข่งขันในประเภท 30 ฝีพาย โดยจะมีเรือยาวชื่อดังจากทั่วประเทศเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้กว่า 20 ทีม ทีมที่ชนะเลิศจะได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปครอง
สำหรับการแข่งขันเรือยาวประเพณีดังกล่าว ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด็อกเตอร์บุญเชิญ ดิษสมาน รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ กล่าวว่า การแข่งขันเรือยาวครั้งนี้เป็นกิจกรรมที่คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ร่วมกับ อบต.สร้อยฟ้า และวัดขนอน จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา ในปี 2558
โดยเป็นกิจกรรมที่สอดคล้องต่อภารกิจในด้านการเรียนการสอน และงานบริการของทางมหาวิทยาลัย ซึ่งให้ความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพของนักศึกษา ทั้งด้านวิชาการความรู้ความสามารถในวิชาชีพ และทักษะด้านงานบริการวิชาการแก่ชุมชน โดยเฉพาะการเตรียมพร้อมก้าวสู่อาเซียน ซึ่งกิจกรรมนี้จะช่วยส่งเสริมสนับสนุน และอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงอยู่คู่ชาติไทย เป็นการสร้างโอกาสให้คนในท้องถิ่น
ตลอดจนนักท่องเที่ยวมีโอกาสเรียนรู้ประวัติศาสตร์ และศิลปวัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่น ที่สำคัญเป็นกิจกรรมที่ท้องถิ่นจะได้รู้ถึงคุณค่าของประวัติศาสตร์ของตนเอง ซึ่งจะสร้างความภูมิใจและจิตสำนีกในการช่วยกันรักษาวัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
ทางด้าน พระครูพิทักษ์ศิลปาคม เจ้าอาวาสวัดขนอน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี กล่าวว่า การร่วมกันจัดการแข่งขันเรือยาวประเพณีที่จะจัดขึ้น อยากให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมอนุรักษ์ สนับสนุน และเยี่ยมชมกิจกรรมที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมในลุ่มแม่น้ำแม่กลอง เพื่อเป็นการสืบทอดประเพณีที่ดีงามให้อยู่คู่กับประเทศไทยอย่างยาวนานต่อไป