ลำพูน - ชาวตำบลริมปิง เมืองเจ้าแม่จามเทวี รวมตัวต้านออกโฉนดทับที่ธรณีสงฆ์ “กู่แดง” ยันเป็นสถานที่สาธารณประโยชน์ ใช้ทำพิธีกรรมเก่าแก่มานาน เผยหลายปีก่อนเคยต้านจนเรื่องเงียบไปแล้ว แต่สุดท้ายกลับมีการออกเอกสารสิทธิอีก ขณะที่เจ้าของที่โผล่เจรจา ตอนแรกรับปากคืนที่ให้บางส่วน ก่อนกลับลำให้ไปฟ้องศาลเอง
วันนี้ (26 ต.ค.) นายมิตร สิงโตวนา อายุ 52 ปี กำนันตำบลริมปิง อ.เมือง จ.ลำพูน พร้อมชาวบ้านร่วม 200 คน รวมตัวกันที่ลานธรณีสงฆ์ “กู่แดง” ท้ายหมู่บ้านศรีบังวัน หมู่ 4 เพื่อเรียกร้องที่ธรณีสงฆ์ 3 ไร่ 2 งานคืน เพื่อใช้ประโยชน์สาธารณะหลังพบว่า มีการออกโฉนดทับ
นายมิตร กล่าวว่า พื้นที่ตรงนี้ชาวบ้านเรียกว่า “กู่แดง” ตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้านศรีบังวัน เป็นที่ธรณีสงฆ์ กู่แดงมีมานานหลายร้อยปี แต่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน คงจะตกสำรวจ โดยชาวบ้านได้ใช้เป็นที่สักการะกู่แดง และทำพิธีกรรมทางศาสนามานานหลายชั่วอายุคน แต่เมื่อประมาณปี 2545-2546 มีนายทุนพยายามอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครอง แต่ถูกชาวบ้านต่อต้านจนเรื่องเงียบไป
ต่อมา เมื่อปี 2555-2556 ได้มีการออกโฉนดที่ดินแปลงนี้ โดยชาวบ้านพากันงงว่า ที่ดินที่ชาวบ้านทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมแปลงนี้ออกโฉนดมาได้อย่างไร และยังมีพระจากจังหวัดเชียงราย เข้ามาจะมาสร้างหลายสิ่งหลายอย่างในที่ดินแปลงนี้ ทำให้ชาวบ้านสุดทน จึงนัดรวมตัวกันเพื่อหาทางออกดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านบางส่วนต้องการให้มีการฟ้องศาล บางส่วนก็ต้องการให้เจรจา ทำให้ไม่สามารถหาข้อยุติได้
กลุ่มชาวบ้านจึงพากันเดินทางไปที่สำนักงานที่ดินจังหวัดลำพูน เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่ดิน ตรวจสอบการได้มาของโฉนดที่ดิน และให้ยกที่ดินคืนแก่ชาวบ้านเพื่อประโยชน์สาธารณะ
และเมื่อยื่นหนังสือต่อเจ้าหน้าที่ที่ดินแล้ว ชาวบ้านได้กลับมารวมตัวกันที่บริเวณกู่แดงอีกครั้ง แต่การพูดคุยก็ยังหาทางออกไม่ได้ ต่อมา มางสิรวิชญ์ สิริภัทรวัฒนกุล อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/11 ถนนเลียบชายฝั่ง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของโฉนด ได้เดินทางมาเจรจากับชาวบ้านนานนับชั่วโมงก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้ ชาวบ้านพากันกันโห่ร้องตลอดเวลา
ต่อมา นายอเนก มหาเกียรติคุณ นายกเทศมนตรีตำบลริมปิง ได้เดินทางมาเป็นคนกลางในการเจรจา ซึ่งได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า นางสิรวิชญ์ จะยกที่ดินให้บางส่วนโดยนัดหมายกันไปทำข้อตกลงอีกครั้ง ทำให้ชาวบ้านสลายตัวไปเมื่อเวลา 14.00 น. แต่เมื่อเดินทางไปถึงสำนักงานที่ดินจังหวัดลำพูน นางสิรวิชญ์ ได้กลับคำพูดที่รับปากชาวบ้านไว้ โดยให้ชาวบ้านไปฟ้องศาลเอาเอง
