เปิดเดินรถไฟสายใต้ได้ตามปกติแล้วหลังดีเซลรางพุ่งชนรถบรรทุกแก๊สจนตกราง

ประจวบคีรีขันธ์ - การรถไฟแห่งประเทศไทย ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เร่งเก็บกู้โบกี้รถไฟที่ตกรางและซ่อมหมอนรองรางรถไฟสำเร็จแล้วก่อนจะเปิดเดินรถได้ตามปกติเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา หลังดีเซลรางขบวนที่ 43 กรุงเทพ-สุราษฎร์ฯชนกับรถบรรทุก 6 ล้อบรรทุกถังแก๊สหุงต้มบนทางตัดลักผ่านไต้สะพานต่างระดับหนองแก หัวหิน เมื่อบ่ายวันนี้

เมื่อเวลา 22..00 น. วันนี้ (24 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดอุบัติเหตุขบวนรถไฟดีเซลรางขบวนที่ 43 จากกรุงเทพมหานคร-สุราษฎร์ธานี ชนกับรถบรรทุก 6 ล้อบรรทุกถังแก๊สหุงต้ม บริเวณทางลักข้ามใต้สะพานต่างระดับหนองแก เขตเทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้หัวรถจักรตกรางได้รับความเสียหาย ส่วนโบกี้ 3 โบกี้ที่บรรทุกผู้โดยสารกว่า 200 คน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ซึ่งภายหลังเกิดเหตุทำให้ไม่สามารถเปิดการเดินรถเนื่องจากโบกี้รถไฟติดคาอยู่บนราง รวมทั้งมีหมอนรถไฟบริเวณที่เกิดเหตุระยะทางประมาณ 70 เมตรได้รับความเสียหาย

ล่าสุดตลอดตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่บำรุงทางในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งหน่วยกู้ภัยม้าเหล็กธนบุรี และทีมช่วยอันตรายบางซื่อ ลงพื้นที่เก็บกู้โบกี้รถไฟที่ตกราง และประเมินความเสียหายของรางรถไฟ โดยในส่วนของรางรถไฟนั้นยังสามารถใช้การได้ตามปกติ แต่หมอนรองรางรถไฟแตกเสียหายเป็นระยะทาง 70 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันเปลี่ยนหมอนรองรางรถไฟ

ในส่วนของการกู้โบกี้ที่ตกรางนั้นใช้รถเครนเอกชนขนาด 50 ตันมาทำการยึดตัวโบกี้รถไฟเพื่อยกขึ้นและวางบนราง ซึ่งต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก เนื่องจากตัวโบกี้รถไฟชนติดกับส่วนหัวของรถบรรทุกแก๊ส และต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเนื่องจากมีน้ำมันจากถังน้ำมันของรถบรรทุกได้รั่วออกมา

โดยในการเก็บกู้โบกี้รถไฟครั้งนี้เจ้าหน้าที่ทำการยกรถไฟขึ้นบนราง เพื่อตรวจสอบสภาพความเสียหายก่อน จากนั้นจึงใช้เครนดึงซากรถบรรทุกออกไปวางไว้ข้างทาง ซึ่งภายหลังกู้โบกี้รถไฟขึ้นมาเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสภาพความเสียหายแล้ว พบว่าโบกี้รถไฟยังสามารถเคลื่อนที่ได้ จึงประสานขอหัวรถจักรที่จอดรออยู่ที่สถานีรถไฟหัวหินมาทำการลากโบกี้รถไฟที่เกิดเหตุไปไว้ที่สถานีรถไฟหัวหินก่อน และเปิดเดินรถได้ตามปกติ เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.ในวันเดียวกันนี้