จันทบุรี - สาวเมืองจันทบุรีเข้าแจ้งความตำรวจตามจับสาวมหาภัยวัย 25 ปี พร้อมพวกรวม 6 คน หลอกซื้อรถจักรยานยนต์เอ็มเอสเอ็กซ์ 125 ผ่านเฟซบุ๊ก ก่อนเชิดรถจักรยานยนต์หายไปพร้อมกับเงินที่ยังไม่ได้จ่ายอีกกว่า 3 หมื่นบาท
วันนี้ (20 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.05 น. น.ส.เสาวลักษณ์ บุญหลัก อายุ 20 ปี ผู้เสียหาย อยู่บ้านเลขที่ 31/48 หมู่ที่ 8 ตำบลเกาะขวาง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.เกริกศิลป์ บูรณ์เจริญ สารวัตรเวร สภ.เมืองจันทบุรี ว่าถูก น.ส.จิราภรณ์ นามเดน อายุ 25 ปี อยู่บ้านที่ 139/3 หมู่ที่ 6 ตำบลปัถวี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี พร้อมพวกรวม 6 คน หลอกซื้อรถจักรยานยนต์เอ็มเอสเอ็กซ์ 125 สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 กค 7999 จันทบุรี ของตนผ่านทางเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2558 ในราคา 52,300 บาท ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ และได้ตกลงซื้อขายรถจักรยานยนต์เอ็มเอสเอ็กซ์ 125 กับ น.ส.จิราภรณ์ นามเดน พร้อมพวกรวม 6 คน
จากนั้น น.ส.เสาวลักษณ์ ผู้เสียหาย และ น.ส.จิราภรณ์ ได้นัดเจรจาเพื่อดูรถจักรยานยนต์กัน หลังจาก น.ส.จิราภรณ์ เห็นรถจักรยานยนต์แล้วจึงเกิดความชอบ และได้ตกลงซื้อขายกับ น.ส.เสาวลักษณ์ ผู้เสียหายกันในราคา 52,300 บาท
จากนั้น น.ส.จิราภรณ์ พร้อมพวกรวม 6 คน จึงได้นัดให้ น.ส.เสาวลักษณ์ ผู้เสียหายมาเจอ และรับรถที่บริเวณลานจอดรถห้างค้าปลีกโลตัสจันทบุรี เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.ของวันที่ 17 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา จากนั้น น.ส.จิราภรณ์ ได้เดินทางมากับบุคคลอื่นๆ รวม 6 คนที่ น.ส.จิราภรณ์ อ้างว่าเป็นญาติพี่น้องกัน ซึ่ง น.ส.เสาวลักษณ์ ผู้เสียหายได้มากับแฟน 2 คน
หลังจากที่ได้นัดดูรถจักรยานยนต์กันเรียบร้อยก็ได้ซื้อขายรถจักรยานยนต์กันตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ ในราคา 52,300 บาท แต่ น.ส.จิราภรณ์ อ้างว่ามีเงินสดอยู่ในตัว 20,000 บาท และอ้างว่าตู้เอทีเอ็มมีปัญหาไม่สามารถกดเงินที่เหลือมาให้ได้ จึงได้ให้บัตรประชาชน และเล่มทะเบียนบ้านฉบับจริงให้แก่ น.ส.เสาวลักษณ์ ผู้เสียหายไว้เพื่อเป็นหลักประกันว่าไม่ได้หลอก ทำให้ น.ส.เสาวลักษณ์ ผู้เสียหายได้หลงเชื่อ จึงยอมตกลงให้นำรถจักรยานยนต์ไปใช้ก่อน โดย น.ส.จิราภรณ์ ได้นัดจ่ายเงินที่เหลือ จำนวน 32,300 บาท ในวันที่ 18 ตุลาคม 2558
เมื่อถึงเวลานัดพบว่า น.ส.จิราภรณ์ ไม่มาตามนัด และ น.ส.เสาวลักษณ์ ผู้เสียหายได้ติดต่อโทรศัพท์กลับไป แต่ถูก น.ส.จิราภรณ์ บ่ายเบี่ยง จากนั้น น.ส.จิราภรณ์ ก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จากนั้น น.ส.เสาวลักษณ์ ผู้เสียหายได้เดินทางไปตามที่อยู่ตามทะเบียนบ้านก็ไม่พบตัว น.ส.จิราภรณ์ แต่อย่างใด จึงรู้ว่าน่าจะถูก น.ส.จิราภรณ์ หลอกซื้อรถ ทำให้ น.ส.เสาวลักษณ์ ผู้เสียหายต้องสูญรถจักรยานยนต์ให้แก่ น.ส.จิราภรณ์ พร้อมพวกรวม 6 คน ไป
น.ส.เสาวลักษณ์ ผู้เสียหายจึงตัดสินใจได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการติดตามตัว น.ส.จิราภรณ์ พร้อมพวกรวม 6 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมาย และติดตามรถจักรยานยนต์ที่ถูก น.ส.จิราภรณ์ ที่หลอกซื้อไปกลับมา