พระนครศรีอยุธยา - มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบถุงยังชีพพระราชทานให้แก่ผู้ประสบอัคคีภัย ในย่านตลาดเก่า 100 ปี ของอำเภอนครหลวง ผู้ประสบภัยเผยช่วงไฟไหม้บ้านมีเรื่องราวปาฏิหาริย์ข้าวของเสียหายหมด แต่พระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 9 กลับไม่ถูกไฟไหม้
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (15 ต.ค.) ที่บริเวณตลาดเก่า 100 ปี เทศบาลตำบลนครหลวง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายเรวัต ประสงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานมอบถุงยังชีพพระราชทานของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้แก่ครอบครัวที่ประสบอัคคีภัย จำนวน 5 ครอบครัว เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ครอบครัวผู้ประสบเหตุ
ภายหลังจากเกิดเหตุไฟไหม้ภายในย่านตลาดเก่าแก่ เมื่อช่วงเวลา 16.30 น.วันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา จนส่งผลให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายทั้งหลัง จำนวน 3 หลัง และเสียหายบางส่วน 2 หลัง นอกจากนี้ ยังส่งผลให้หลังคา และผนังของศาลาการเปรียญวัดโตนด ซึ่งอยู่ติดกับบ้านเรือนดังกล่าวได้รับความเสียหายตามไปด้วย แต่ยังเคราะห์ดีที่ไม่มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต
สำหรับการช่วยเหลือภายหลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้นั้น ทางเทศบาลตำบลนครหลวง ก็ได้มอบเงินช่วยเหลือในการซ่อมแซมบ้านเรือนให้รายละ 30,000 บาท นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา มอบเงินส่วนตัวให้อีกรายละ 2,000 บาท และยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออีกมากมาย ซึ่งขณะนี้ก็ได้ดำเนินการซ่อมแซมจนสามารถเข้าพักอาศัยได้ปกติแล้ว 2 หลัง ส่วนบ้านที่ได้รับความเสียหายทั้งหลัง จำนวน 3 หลังนั้น ต้องทำการรื้อถอนซากออกทั้งหมด
นางวัฒนะ ภิรมย์ปภาโชค อายุ 74 ปี หนึ่งในเจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหาย กล่าวว่า บ้านของตนถูกไฟไหม้ แต่กลับมีเรื่องที่โชคดีราวปาฏิหาริย์ เมื่อช่วงที่เกิดไฟไหม้เพลิงได้ลุกไหม้ในส่วนของฝาผนัง และเพดานของบ้านจนข้าวของเสียหายเกือบหมด แต่ปรากฏว่า พระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) กลับไม่ถูกไฟไหม้ ทั้งๆ ที่รูปภาพอื่นๆ ถูกไฟไหม้ทั้งหมด คาดว่าน่าจะเป็นเพราะพระบารมีของทั้ง 2 พระองค์ท่าน ทั้งนี้ หลังจากได้รับการช่วยเหลือในครั้งนี้ตนเองซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านเป็นอย่างมาก และขอให้พระองค์ทรงหายจากอาการประชวรโดยเร็ว