xs
xsm
sm
md
lg

“อ๊อบ-ทวีพงษ์” กับเก้าอี้รองผู้อำนวยการ อพท. ลั่นพร้อมต่อยอดพัฒนาพื้นที่ต่อเนื่อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - จากบทบาทผู้จัดการพื้นที่พิเศษเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยงตลอด 3 ปี แห่งองค์กรผลักดันส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สู่เก้าอี้รองผู้อำนวยการ อพท. “อ๊อบ ทวีพงษ์” ลั่นยังคงรับผิดชอบเมืองพัทยา พร้อมดันต่อยอดท้องถิ่นใกล้เคียงให้มีศักยภาพสูงสุด

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ หรือที่หลายคนรู้จักดีว่า “อ๊อบ-อพท.” อดีตผู้จัดการพื้นที่พิเศษเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. 3 มาขณะนี้ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการ อพท.(2) ที่วันนี้กับตำแหน่งหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น กับบทบาทการต่อยอดพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวเมืองพัทยาและเชื่อมโยง

อ๊อบ-ทวีพงษ์ เล่าว่า ตอนแรกที่ทำงานในตำแหน่งพื้นที่พิเศษเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง หรือผู้จัดการ อพท.3 ซึ่งเริ่มทำงานช่วงปลายปี 2555 อพท.3 จะมีพื้นที่ดูแลเมืองพัทยา ซึ่งครอบคลุมพื้นที่เกาะล้าน และเกาะไผ่ เทศบาลเมืองหนองปรือ เทศบางตำบลบางละมุง เทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ย เทศบาลตำบลโป่ง เทศบาลตำบลห้วยใหญ่ เทศบาลตำบลนาจอมเทียน องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองปลาไหล อบต.เขาไม้แก้ว และประกาศพื้นที่พิเศษฯเพิ่ม โดยรวมเขตพื้นที่ อบต.นาจอมเทียน

ซึ่งงานของ อพท.นั้นยังเป็นที่สงสัยต่อองค์กร และหน่วยงานต่างๆ ว่ามีบทบาทหน้าที่ทำอะไร การทำงานทับซ้อนกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือไม่อย่างไร ตรงนั้นเราก็ต้องมีการลงพื้นที่ปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นๆ ชี้แจงว่า อพท.มีหน้าที่ คือ การให้ความสำคัญต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แผนแม่บท อพท.ที่ได้จัดทำขึ้นต้องคอยสนับสนุนงบประมาณผลักดัน และพัฒนาท้องถิ่นนั้น โดยการนำเม็ดเงินงบประมาณมาสนับสนุนโครงการพัฒนาต่างๆ ที่จะช่วยให้ท้องถิ่นนั้นมีความเจริญเติบโตด้านการท่องเที่ยวอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืน ซึ่งการทำงานช่วงแรกในบทบาทของ อพท.นั้นต้องสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นต่อหน่วยงานต่างๆ ซึ่งจะได้สรุปเป็นแผนนำเสนอของบประมาณจากรัฐบาลได้โดยตรง

อพท.จึงได้มีการประกาศให้เมืองพัทยา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอีก 9 แห่งข้างต้น เป็นพื้นที่รับผิดชอบที่ อพท.จะเข้ามาสนับสนุน และผลักดันการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวตั้งแต่ปี 2551 ต่อมาในปี 2552-2553 ได้มีการศึกษาและจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่พิเศษเมืองพัทยา และพื้นที่เชื่อมโยง

จากนั้น ในปี 2554 ได้มีการก่อสร้าง และจัดตั้งสำนักงานพื้นที่พิเศษเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง หรือ อพท.3 ขึ้นเป็นสำนักงานอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อการทำงานประสานหางบประมาณลงท้องถิ่น

จนในปี 2555 ซึ่งเป็นปีแรกที่ได้เข้ามาทำงานในตำแหน่งผู้จัดการ อพท.3 สามารถประสานงานหางบประมาณลงท้องถิ่นได้ทั้งสิ้น 135 ล้านบาท ปี 2556 สามารถประสานงานได้มา 299 ล้านบาท และในปี 2557 ประสานงานได้มาทั้งสิ้น 200 ล้านบาท จนถึงปี 2558 ก็ได้มาแล้วอีก 158 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการทำงานส่งเสริมโครงการพัฒนาพื้นที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้สามารถต่อยอดการพัฒนาตัวเองได้ โดยมี อพท.เป็นองค์กรประสานงานช่วยเหลืองบประมาณการดำเนินการ

รองผู้อำนวยการ อพท.2 บอกต่อด้วยว่า ในส่วนของพื้นที่พิเศษเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยงนั้นยังมีงบประมาณส่วนตัวในการจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ ตามที่เคยดำเนินการมา เช่น การพัฒนาการท่องเที่ยวของชุมชนตะเคียนเตี้ยน การฟื้นฟูตลาดจีนโบราณชุมชนบ้านชากแง้ว การส่งเสริมศักยภาพชุมชนประมงตำบลบางละมุง เป็นต้น

การทำงานกับชุมชนก็เป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ซึ่ง อพท.ก็ยังคงสร้างความเข้าใจจนเกิดโครงการต่างๆ พัฒนาในชุมชน ซึ่งชาวบ้านจะเกิดความเข้าใจตามมา เมื่อเห็นงานออกเป็นรูปธรรมชัดเจน เพราะพื้นเมืองท่องเที่ยวที่มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอยู่ใกล้เคียงนั้น ไม่สามารถพัฒนาด้านการท่องเที่ยวของตัวเองได้ให้มีความเข้มแข็ง อพท.ก็เข้ามาช่วยประสานงานหากิจรรมต่างๆ มาช่วยเสริม ให้เป็นภาพรวมการท่องเที่ยวเดียวกันของภูมิภาคที่มีการพัฒนาร่วมกันต่อไป

การทำงานของ อพท.3 ได้รับการสนับสนุนด้วยดีจาก นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ที่มีวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาท้องถิ่น โดยมองว่าเมืองพัทยามีการเติบโต และขยายตัวออกไปมาก และจะมากขึ้นต่อไปในอนาคต จึงประสานงาน อพท.ให้เข้ามาช่วยส่งเสริม และผลักดันจนเกิดการทำงานดังกล่าว เพื่อหาเม็ดเงินงบประมาณมาสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียง แรกเริ่มเป็นการทำงานกับท้องถิ่น ต่อมา ก็ทำงานกับจังหวัด ซึ่งก็ถือเป็นโชคดีของ อพท.3 ที่ได้รับความเอ็นดูจาก นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ที่ให้การสนับสนุนงานของ อพท.อย่างเต็มที่ ทำให้งานระดับท้องถิ่น และงานระดับภูมิภาคที่ อพท.กำกับดูแลลื่นไหลไปได้ด้วยดี

ทั้งนี้ ในส่วนของการทำงานหลังได้รับตำแหน่งรองผู้อำนวยการ อพท.2 บทบาทการทำงานก็เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากต้องดูแลรับผิดชอบรวม 3 พื้นที่ กับ 1 สำนักงาน คือ พื้นที่พิเศษเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง พื้นที่พิเศษเมืองโบราณอู่ทอง พื้นที่พิเศษอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย-กำแพงเพชร และสำนักงานท่องเที่ยวโดยชุมชน

ทวีพงษ์ ยังบอกด้วยว่า ซึ่งในส่วนของพื้นที่พิเศษเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง ถือเป็นพื้นที่การทำงานเดิมที่ยังคงรับผิดชอบ ซึ่งต้องมีการต่อยอดการทำงาน โดยมีแนวคิดจะร่วมผลักดันร่วมกับโครงการ Active Beach ของจังหวัดชลบุรี ซึ่ง อพท.ได้มีการนำเสนอชื่อนายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานคณะที่ปรึกษาพิเศษเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยงแล้วเช่นกัน ซึ่งจะมีผลอนุมัติจากส่วนกลางในเร็ววันนี้

ส่วนการทำงานจะให้ความสำคัญในการพัฒนาการท่องเที่ยวเชื่อมโยงในพื้นที่ตำบลชากแง้ว อำเภอบางละมุง และการเพิ่มเส้นทางจักรยานในพื้นที่ที่เคยศึกษาความเหมาะสม ซึ่งทั้งหมดต้องดูท่าทีของรัฐบาล แต่ด้วยศักยภาพของภูมิภาคตะวันออกเป็นหัวใจสำคัญของประเทศที่มีการเติบโตต่อเนื่อง ประกอบกับจะมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระดับภูมิภาคจึงเป็นเรื่องที่ต้องมีการผลักดันกันต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น