พิจิตร - ผู้ว่าฯ เมืองชาละวัน ยกคณะดูบึงสีไฟ เห็นแห้งจริงกับตาก่อนสั่งใช้วิกฤตเป็นโอกาส ขุดลอกบึงโซน D คืนสภาพให้ 1 ในพื้นที่ชุ่มน้ำโลกให้ได้ก่อนสิ้นปีนี้
วันนี้ (12 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ดูสภาพบึงสีไฟ ซึ่งในอดีตเป็นแหล่งน้ำใหญ่อันดับ 3 ของประเทศไทย มีพื้นที่ 5,300 ไร่ แต่วันนี้พื้นที่กว่า 3,000 ไร่ มีสภาพแห้งขอด รวมถึงบริเวณศาลาชมวิวกลางบึง ที่เคยเป็นแหล่งท่องเที่ยว และมีปลานานาชนิดให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชม ก็แห้งด้วย
นางฉัตรพร กล่าวว่า จะต้องหาทางฟื้นฟูบึงสีไฟให้คืนสภาพมาช่วยเหลือประชาชนได้อีกครั้ง โดยดำเนินการขุดลอกบริเวณโซน D ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวให้เป็นที่รับน้ำ เติมน้ำ และปล่อยพันธุ์ปลา ปลูกดอกบัว คืนชีวิตให้แก่บึงสีไฟ ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำโลกให้กลับมาสวยงามเหมือนดั่งเดิมให้ได้ก่อนสิ้นปี 2558 นี้ เพื่อเป็นการต้อนรับการท่องเที่ยวเพื่อเข้าสู่ AEC ด้วย
ด้าน นายบุญเวทย์ ศรีพวงใจ และนายพิษณุ เสนาวิน รอง ผวจ.พิจิตร พร้อมด้วย นายณรงค์ เกตุสุวรรณ ประมงจังหวัดพิจิตร นายสมยศ แสงมณี ชลประทานจังหวัดพิจิตร นายสุเมธ ศิริลักษณ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นคณะทำงานที่ได้ลงพื้นที่ด้วยได้หารือกันว่า จะใช้วิกฤตภัยแล้งเป็นโอกาสในการเข้าฟื้นฟูบึงสีไฟ
โดย สนง.จังหวัดพิจิตร จะเป็นเจ้าภาพในการจัดหางบประมาณ 1.5 ล้านบาท มาเป็นค่าน้ำมัน แล้วใช้เครื่องจักรกลของกรมประมงมาทำการขุดลอก
นายสุเมธ ศิริลักษณ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพิจิตร ชี้ว่า บริเวณพื้นที่โซน D ประมาณ 200-300 ไร่ ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวที่มีการทำ EIA และ HIA ว่าสามารถขุดลอก และปรับปรุงสภาพสิ่งแวดล้อมได้ ดังนั้น จึงไม่น่ามีปัญหาในเรื่องข้อกฎหมาย
ขณะที่ นายบุญเวทย์ ศรีพวงใจ รอง ผวจ.พิจิตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ดินที่ขุดลอกนั้นมีแนวทางว่า ส่วนหนึ่งจำนวนเล็กน้อยจะนำไปถมที่ดินสาธารณะของราชพัสดุ แต่ดินส่วนใหญ่มีประชาชนเสนอว่า อยากให้ทำเป็นเกาะอยู่กลางบึงสีไฟ เพื่อให้เป็นจุดปลูกไม้ดอกไม้ประดับ และจุดท่องเที่ยวกลางน้ำ ให้พายเรือเข้าไปโดยผ่านพื้นที่ปลูกดอกบัว ซึ่งจะทำให้เกิดการท่องเที่ยวทางน้ำ
จุดที่ทิ้งดินนั้นจะเลือกเอาส่วนที่ตื้นเขินที่สุดของบึงสีไฟเป็นจุดทิ้งดิน ส่วนรูปแบบจะออกมาสวยเพียงใดคงต้องให้ฝ่ายออกแบบส่งแบบมา แต่ควรต้องทำให้แล้วเสร็จก่อนสิ้นปี 2558 ให้ได้
