ตราด-นายกสมาคมประมงคลองใหญ่ ชี้ทำประมงต้องดิ้นเพื่อความอยู่รอด โดยกัมพูชาไม่ห้ามจับปลา แต่รัฐบาลไทยมีกฎระเบียบข้อบังคับหลายอย่าง หวั่นห้ามจับปลาส่งผลกระทบชาวประมงไทยหนัก
นายอมรศักดิ์ วรวิจิตรพงษ์ นายกสมาคมประมงคลองใหญ่ร่วมใจ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เปิดเผยว่า สถานการณ์การทำธุรกิจประมงของอำเภอคลองใหญ่วันนี้อยู่ในสถานการณ์ที่ถูกกดดันอย่างหนัก ทั้งเรื่องของข้อบังคับที่รัฐบาลกำหนดไว้ ทั้งเรือประมงผิดกฎหมาย และการออกระเบียบในเรื่องการจับปลาในทะเล
เรือประมงที่ผิดกฎหมายทำในประเทศไทยไม่ได้ เพราะผิดระเบียบกฎหมายไทย ก็จำเป็นต้องออกไปทำประมงในประเทศเพื่อนบ้าน แล้วนำปลาทะเลเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งวันนี้รัฐบาลกัมพูชาเขาไม่ได้ห้าม และยินดีด้วย เพราะแรงงานประมงจะได้มีงานทำไม่ต้องเดินทางออกมาทำงานใน จ.ตราด และประเทศของเขาก็มีรายได้จากการเก็บภาษีอีกด้วย
“เจ้าของเรือประมงบางส่วนต้องออกไปจอดที่กัมพูชา และต้องซื้อตั๋วทำประมงของกัมพูชาอย่างถูกต้อง แต่รัฐบาลไทยกำลังมีมาตรการให้เรือประมงติดจีเอสพี เพื่อตรวจสอบการทำประมงว่าทำในพื้นที่ไหน และทำอยู่ในเขตประเทศไทยหรือไม่ ทำในพื้นที่ห่างจากฝั่งเท่าไร น้ำทะเลลึกระดับไหน ถ้าทำผิดก็ถูกจับ อีกทั้งยังมากำหนดวันในการทำประมงด้วย โดยให้พักไม่ต้องจับปลาไป 9 วัน/เดือน และเดือนหนึ่งจับปลาได้กี่วัน ไม่รู้รัฐบาลใช้ส่วนไหนคิด และเรื่องจริงวันนี้ธุรกิจประมงของคลองใหญ่ตายไปแล้ว” นายอมรศักดิ์ กล่าว
นายอมรศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า เรือประมงของ จ.ตราด ที่ไปทำประมงในกัมพูชาเพราะรัฐบาลกัมพูชาไม่ได้มองว่าผิดกฎหมาย และเราก็ทำถูกต้องตามกฎหมาย สิ่งเหล่านี้ทำให้ประเทศไทย คนไทยหมดโอกาส และการทำประมงก็ได้แต่ปลาที่เป็นปลาเหยื่อที่ไม่มีราคาค่างวดอะไร กลับมา 8 ลำ 9 ลำก็เป็นเช่นนี้ ประมงคลองใหญ่ไม่มีทางเลือกที่สุดก็ต้องไปทำมาหากินในกัมพูชาเพื่อดำรงชีวิต และธุรกิจให้อยู่รอดได้
