กาฬสินธุ์ - จังหวัดกาฬสินธุ์ผนึกกำลังทุกภาคส่วนเตรียมความพร้อมรับมือพายุโซนร้อน “มูจีแก” โดยตรวจกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการป้องกันและช่วยเหลือประชาชนรับมือหากเกิดภัยพิบัติน้ำท่วมฉับพลัน และดินภูเขาถล่มให้มีประสิทธิภาพ
วันนี้ (5 ต.ค.) ที่กองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดน จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.นิติภัย ภีมะโยธิน ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดกาฬสินธุ์ มอบหมายให้ พ.อ.สมบัติ จินดาศรี เสนาธิการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายเดชา พลกล้า หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ นายชนิพนธ์ สงวนสัตย์ ป้องกันจังหวัดกาฬสินธุ์ นางสมคิด สุทธิพรม พยาบาลวิชีพ โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ร่วมกันตรวจความพร้อมกำลังพล
ทั้งทหาร ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ ปภ. เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ หน่วยเคลื่อนที่เร็ว มูลนิธิ กู้ชีพ กู้ภัย นักศึกษา รด. และยุทโธปกรณ์ต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมช่วยเหลือประชาชนหากกรณีเกิดภัยพิบัติ โดยเฉพาะอุกทกภัย วาตภัย และอัคคีภัยในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์
พ.อ.สมบัติ จินดาศรี เสนาธิการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศการเคลื่อนตัวของพายุโซนร้อนมูจีแก ที่กำลังพาดผ่านประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทยและพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ทำให้เกิดฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้างอาจเกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และดินภูเขาถล่ม
ทั้งนี้ พื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์เป็นพื้นที่เสี่ยงที่จะได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติน้ำท่วม เพราะเป็นพื้นที่ต่ำราบลุ่มแม่น้ำชี และแม่น้ำปาว อดีตเคยได้รับความเสียหายจากปัญหาอุทกภัยเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีพื้นที่อีกหลายอำเภออยู่ในเขตเชิงเขา เสี่ยงต่อการได้รับอันตรายจากน้ำป่าไหลหลากและดินภูเขาถล่ม เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติดังกล่าวที่อาจเกิดจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนมูจีแก กองทัพภาคที่ 2 มีความเป็นห่วงในสถานการณ์ดังกล่าวจึงได้มอบหมายให้กำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ ผนึกกำลังกับส่วนราชการทุกฝ่าย ทั้งป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โรงพยาบาล เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ หน่วยเคลื่อนที่เร็ว มูลนิธิ กู้ชีพ กู้ภัย เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ต่างๆ
รวมถึงสมรรถภาพของเจ้าหน้าที่ ยานพาหะ อุปกรณ์ ระบบและเครื่องมือสื่อสาร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ในการช่วยเหลือประชาชนกรณีเกิดภัยพิบัติ และเพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น ในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนมีการเตรียมการป้องกันรับมือสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างทันท่วงทีอีกด้วย
รายงานข่าวเพิ่มเติมแจ้งว่า สภาพอากาศโดยทั่วไปในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ในวันเดียวกันนี้ (5 ต.ค.) เริ่มมีหมอกปกคลุมทั่วบริเวณในยามเช้า โดยเฉพาะที่บริเวณพุทธสถานภูสิงห์ ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาภูสิงห์ สามารถมองเห็นหมอกหนาที่ปกคลุมทั่วอำเภอได้รอบทิศอย่างชัดเจน ซึ่งทำให้เกิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม และมีนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปยอดเขาตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อเก็บภาพบรรยากาศที่สวยงามไว้เป็นที่ระลึก รวมถึงร่วมทำบุญและกราบไหว้พระภูมิปาโลเพื่อเป็นสิริมงคลด้วย
อย่างไรก็ตาม พายุมูจีแกที่ส่งผลทำให้เกิดฝนตกในพื้นที่แต่ยังไม่ทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาวเพิ่มขึ้น โดยสถานการณ์ล่าสุดพบว่าในเขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำทั้งหมดที่ร้อยละ 38 หรือปริมาณน้ำที่ 761 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีการระบายน้ำเฉลี่ยวันละ 4 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน โดยวันนี้มีน้ำไหลหลากเข้าอ่างที่ 13 ล้าน ลบ.ม. โดยเขื่อนลำปาวมีความจุเต็มพิกัดของที่รองรับได้มากถึง 1,890 ล้าน ลบ.ม.
