“มูจีแก” ยังสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านจันทบุรีต่อเนื่อง

จันทบุรี - พายุมูจีแก ยังคงสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดน้ำท่วมขยายพื้นที่ออกเป็นวงกว้าง ล่าสุด พื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลมะขาม อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี มีน้ำท่วมบ้านเรือนกว่า 10 หลังคาเรือน และสวนผลไม้กว่า 30 ไร่

วันนี้ (5 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสำรวจรอบนอกเพื่อสำรวจสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี หลังในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ได้รับผลกระทบจากพายุมูจีแก ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากจากเขาสระบาป ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือน และสวนผลไม้

ล่าสุด ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลมะขาม อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี มีน้ำป่าไหลหลากได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านไปกว่า 10 หลังคาเรือน สวนผลไม้ประกอบด้วย กล้วย สวนยางพารา และมังคุดกว่า 30 ไร่ ถูกน้ำท่วมสูงระดับน้ำอยู่ที่ 40-50 ซม. โดยเฉพาะบ้าน และสวนผลไม้ของ นางมุย บุญรอด อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 156/2 หมู่ที่ 1 ตำบลมะขาม อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ถูกน้ำท่วมในปีนี้มา 3 ครั้งแล้ว

นอกจากนี้ ฝนที่ตกต่อเนื่องยังทำให้จุดวัดน้ำใน 4 จุดหลัก ประกอบด้วย สะพานกระทิง อำเภอเขาคิชฌกูฏ ฝายท่าระม้า อำเภอมะขาม ฝายยาง สะพานวัดจันทนาราม หรือแม่น้ำจันทบุรี อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น และน้ำมีสีขุ่นแดง ไหลเชี่ยว

เบื้องต้น นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้สั่งการให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี ได้มีการเฝ้าติดตามสถานการณ์ปริมาณฝน และปริมาณน้ำในพื้นที่ต้นน้ำอย่างใกล้ชิด รวมทั้งจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว อุปกรณ์เครื่องมือ เรือท้องแบนไว้ให้พร้อม หากพบว่าสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจทางจังหวัดจะได้ออกให้การช่วยเหลือชาวบ้านได้อย่างทันท่วงที

นอกจากนี้ ได้สั่งการให้นายอำเภอที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยที่อาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม ได้มีการติดตาม และเฝ้าระวังในช่วงอย่างใกล้ชิด ล่าสุด ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ส่วนพื้นที่น้ำท่วมใน 3 หมู่บ้าน ตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ระดับน้ำเริ่มลดลง หลังจากทางองค์การบริหารส่วนตำบลคลองนารายณ์ ได้มีการประสานให้ทางชลประทานที่ 9 ได้มีการเปิดประตูระบายน้ำบริเวณคลองบายพาส เพื่อให้น้ำไหลลงสู่ทะเล แต่ยังมีน้ำท่วมขังสวนผลไม้ และบ้านเรือนของชาวบ้านอีกหลายจุด

ซึ่งทางผู้นำท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้ลงพื้นไปให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว ทั้งนี้ หากในพื้นที่ยังคงมีฝนตกลงมาอย่าต่อเนื่องเช่นนี้ ก็จะทำให้น้ำท่วมขยายพื้นที่ออกเป็นวงกว้างขึ้นไปเรื่อยๆ

นายสมโชค สินใจบุญ อายุ 52 ปี ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า น้ำป่าได้ไหลมาจากพื้นที่ตำบลอ่างคีรี และตำบลบ่อเวฬุ โดยระดับน้ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าจะมีบ้านเรือน และสวนผลไม้ของชาวบ้านถูกน้ำท่วมเพิ่มขึ้น ตอนนี้ตนเองได้เริ่มเก็บสิ่งของไว้ในที่สูงบ้างแล้ว ซึ่งต้องมีการเตรียมการไว้ก่อน เพราะไม่รู้ว่าน้ำป่าจะมาช่วงไหนเวลาไหน

นางมุย บุญรอด ชาวบ้านอีกรายที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า น้ำที่ไหลเข้ามาท่วมที่บ้านเป็นน้ำป่าที่ไหลลงมาจากเขาสระบาป ซึ่งตนเองต้องซื้อกับข้าวตุนเอาไว้ รวมทั้งตนเองฟังข่าวว่าจะมีพายยุจะมาก็ได้มีการเตรียมเก็บสิ่งของ และทรัพย์สินไว้ในที่สูง