บุรีรัมย์ - วอนช่วย “น้องเมย์” สาวบุรีรัมย์วัย 17 ปี พิการทางสมองซ้ำเป็นโรคโปลิโอแขนขาลีบเล็กพูดไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แต่กำเนิด พ่อแม่แยกทางอาศัยอยู่กับปู่ย่าฐานะยากจนมีอาชีพรับจ้างรายได้ไม่แน่นอน พึ่งเงินสูงอายุและเบี้ยยังชีพคนพิการรวมเดือนละ 1,400 บาท ขณะปู่ออกหาปลาประทังชีวิต จนร่างกายไม่ไหวประกาศขายเรือใช้หาปลามากว่า 40 ปีเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว
วันนี้ (29 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า พบหญิงสาว อายุ 17 ปี พิการทางสมอง ปัญญาอ่อน เป็นโปลิโอตั้งแต่กำเนิด แขนขาลีบช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โดยอาศัยอยู่กับปู่ย่า พ่อแม่แยกทางกัน มีเพียงเงินผู้สูงอายุและเบี้ยยังชีพคนพิการ รวมกันเดือนละ 1,400 บาท ครอบครัวฐานะยากจน อาชีพรับจ้าง และหาปลา มีรายได้ไม่แน่นอน เป็นที่น่าสงสารของเพื่อนบ้าน
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมูล หมู่ 7 บ้านท่าเรือ ต.ท่าม่วง อ.สตึก ซึ่งเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงจากดินไม่ถึงฟุต หลังคาสังกะสี มีฝาไม้เก่ากั้นป้องกันลม แดด และฝน ของนายสมพงษ์ หมื่นหน้า อายุ 63 ปี กับ นางทองสา หมื่นหน้า อายุ 58 ปี สองสามีภรรยา และ นางสาวเขมิกา หมื่นหน้า หรือน้องเมย์ อายุ 17 ปี หลานสาวที่พิการทางสมองและป่วยเป็นโปลิโอ
พบนายสมพงษ์ และนางทองสา กำลังนั่งดูแลนางสาวเขมิกา หรือน้องเมย์ ที่นอนอยู่บนพื้นไม้ภายในบ้าน ในสภาพน้องเมย์มีแขนขาเกร็ง ลีบเล็ก ปากเบี้ยว ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ขณะลุกนั่งต้องช่วยพยุงร่างเอาไว้เพราะจะล้มลงตลอด พูดจาไม่ได้เพียงแต่ส่งเสียงจากลำคอเรียกปู่และย่าเพื่อสื่อสาร และต้องคอยป้อนข้าวป้อนน้ำ หากไปไหนสองคนปู่ย่าต้องหอบหิ้วหลานไปด้วยตลอดเพราะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ทำให้ต้องนำรถจักรยานยนต์ และรถจักรยานที่มีอยู่ไปต่อพ่วงข้างไว้ให้น้องเมย์นั่งเวลาจะพาออกไปข้างนอก
นายสมพงษ์เล่าว่า น้องเมย์ หลานสาว ป่วยพิการทางสมอง ปัญญาอ่อน เป็นโปลิโอ แขนขาเกร็ง ลีบเล็ก พูดไม่ได้มาตั้งแต่เกิด หลังจากพ่อแม่เขาแยกทางกันก็เอาน้องเมย์มาให้ปู่กับย่าเลี้ยงตั้งแต่ 3 เดือน ซึ่งที่ผ่านมาได้พาน้องเมย์ไปรักษาที่โรงพยาบาลหลายครั้งแต่ไม่หาย เพราะหลานสาวช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย ปู่กับย่าต้องผลัดเปลี่ยนกันดูแลตลอดเวลา หากคนใดคนหนึ่งออกไปทำงานอีกคนต้องอยู่ดูแลหลาน เพราะความเป็นห่วง ต้องคอยป้อนข้าวป้อนน้ำ และป้อนยา
ทุกวันนี้ครอบครัวก็อาศัยเงินเบี้ยผู้สูงอายุของตน และคนพิการของน้องเมย์ รวมกันเดือนละ 1,400 บาทเท่านั้นซึ่งไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย เพราะครอบครัวมีอาชีพรับจ้างทั่วไป มีรายได้ไม่แน่นอน บางวันตนต้องออกไปหาปลาตามแม่น้ำมูลมาเป็นอาหารเลี้ยงครอบครัว
นายสมพงษ์เล่าต่อว่า ตนอายุมากขึ้น สภาพร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนก่อน จะออกเรือไปหาปลาก็ไม่ไหว ต้องติดป้ายประกาศขายเรือโลหะที่ใช้ทำมาหากินมากว่า 40 ปี เพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว ส่วนพ่อของน้องเมย์ไปทำงานรับจ้างที่กรุงเทพฯ ส่งเงินมาให้บ้างแต่ก็ไม่เพียงพอ เวลาจะพาน้องเมย์ไปโรงพยาบาลแต่ละครั้งลำบาก ต้องยืมเงินเพื่อนบ้านเป็นค่ารถ และเดินทางไม่สะดวกเนื่องจากน้องเมย์ตัวโตต้องช่วยกันอุ้มสองคนปู่กับย่าตลอด
รู้สึกสงสารหลานที่เกิดมาพิการ ทุกวันนี้น้องเมย์ป่วย แขนขาเกร็งมีอาการชักบางครั้ง ทำให้กินข้าวได้น้อย จึงอยากวอนขอความเมตตาจากผู้ที่ใจบุญช่วยเหลือ
ทั้งนี้ หากผู้ใจบุญต้องการช่วยเหลือครอบครัวน้องเมย์สามารถบริจาคได้ที่หมายเลขบัญชี 408-0-70557-9 ชื่อบัญชี นางทองสา หมื่นหน้า ธนาคารกรุงเทพ สาขาสตึก บัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ หรือติดต่อได้ที่ นายสมพงษ์ หมื่นหน้า หมายเลขโทรศัพท์ 08-6258-3093
