ศูนย์ข่าวศรีราชา- เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ เร่งนำน้ำผสมด่างทับทิมกว่า 12,000 ลิตร ฉีดใส่ท่อระบายน้ำขจัดกลิ่นสารเคมีที่ถูกลักลอบทิ้งลงท่อเมื่อเกือบ 2 สัปดาห์ก่อน จนทำให้ชาวบ้านเดือนร้อน ขณะที่ ตร.เผยรู้ตัวผู้กระทำผิดแล้ว แค่รอผลการตรวจสอบชนิดสารเคมี จากนั้นจะเรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหา
วันนี้ (25 ก.ย.) น.ส.บุญญิสา แสงจันทร์ นักวิชาการสุขาภิบาล เทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ (ทน.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากการที่มีผู้ลักลอบทิ้งสารเคมีลงท่อระบายน้ำสาธารณะ บริเวณปากซอยวัดวังหิน หมู่ 1 ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา จนทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากกลิ่นเหม็นของสารเคมีที่ยังคงตกค้างอยู่ในท่อระบายน้ำ
“วันนี้เทศบาลฯ ยังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นเหม็นอยู่ แม้เวลาจะผ่านไปนานถึงเกือบ 2 สัปดาห์แล้วก็ตาม ซึ่งเมื่อลงพื้นที่พร้อมเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบก็พบว่า ยังมีกลิ่นเหม็นอยู่จริง แม้ในเบื้องต้นจะนำน้ำมาฉีดไล่สารเคมีให้เจือจาง รวมทั้งนำทราย และปูนขาวมาเทลงท่อระบายน้ำเพื่อช่วยดับกลิ่น รวมทั้งที่ผ่านมา จะมีฝนตกหนักหลายวันก็ช่วยได้เพียงทำให้กลิ่นเจือจางลงไปเท่านั้น”
น.ส.บุญญิสา กล่าวอีกว่า ในวันนี้ได้นำน้ำผสมด่างทับทิมกว่า 12,000 ลิตร ฉีดไล่ไปตามท่อระบายน้ำเพื่อดับกลิ่น และล้างสารเคมีที่ยังตกค้างอยู่ในท่อ ซึ่งคาดว่าน่าจะช่วยดับกลิ่นได้ในระดับหนึ่ง แต่หากยังมีกลิ่นอยู่ก็จะฉีดน้ำด่างทับทิมซ้ำอีก ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ทราบเป็นสารเคมีชนิดใด เนื่องจากยังไม่ทราบผลการตรวจ แต่จากการสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นสารกัดกร่อนโลหะ สนิม ประเภทสารโซเวนต์
ด้าน ร.ต.ท.ธนากร ธรรมเมธา ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรศรีราชา เจ้าของคดีกล่าวว่า ยังต้องรอผลการตรวจสารเคมีจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ชลบุรี อย่างไรก็ดี ขณะนี้ทราบตัวผู้ต้องหาแล้วว่าเป็นใคร แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ และเมื่อผลตรวจสอบออกมาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะเรียกผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อกล่าวหา และดำเนินคดีในทันที