กองทัพเรือจัดพิธีสวนสนามทางบกให้ “ผบ.ทร.” อำลาชีวิตราชการยิ่งใหญ่

ศูนย์ข่าวศรีราชา - กองทัพเรือ จัดพิธีสวนสนามทางบก เทิดเกียรติให้ “ผบ.ทร.” อำลาชีวิตราชการอย่างยิ่งใหญ่

วันนี้ (22 ก.ย.) ที่หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและชายฝั่ง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีสวนสนามทางบก ที่หน่วยขึ้นตรงของกองทัพเรือในพื้นที่ภาคตะวันออก จัดขึ้น เพื่อเป็นเกียรติเนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการ โดยจัดกำลังพลทั้งหมด 9 กองพัน เข้าร่วมการสวนสนามรูปแบบใหม่ ที่ผสมผสานระหว่างการสวนสนามเดินเท้า สวนสนามวิ่ง และสวนสนามยานยนต์ เพี่อแสดงออกถึงความพร้อมของกำลังพล และยุทโธปกรณ์ในการเคลื่อนย้ายทางยุทธวิธีของหน่วย

โดยมี พล.ร.ท.วิพากษ์ น้อยจินดา ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ พร้อมด้วย พล.ร.ต.จงกล มีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ผู้บังคับบัญชาหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ และข้าราชการเข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธี

พล.ร.ท.วิพากษ์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ ผบ.ทร. ดำรงตำแหน่ง แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำที่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง ได้อุทิศจิตวิญญาณ และสติปัญญาในการทำให้กองทัพเรือเป็นกองทัพที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีคุณธรรมของการเป็นทหารเรือไทย และในส่วนของการพัฒนากำลังรบด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของท่าน ได้เล็งเห็นการพัฒนากำลังรบให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ได้มีการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเสริมเขี้ยวเล็บของกองทัพเรือ ในการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์สำหรับหน่วยต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพในการรบ เช่น การจัดหาเรือฟริเกต และโครงการจัดหาเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ

นอกจากนั้น ยังได้สั่งการให้กองทัพเรือเข้าช่วยเหลือประชาชนจากมหาอุทกภัยได้อย่างรวดเร็ว อันเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาประชาชนอย่างมาก จึงพร้อมใจกันจัดพิธีสวนสนามอันทรงเกียรตินี้ขึ้นในพิธีอำลาชีวิตราชการ

ด้าน พล.ร.อ.ไกรสร กล่าวต่อกำลังพลว่า หน่วยกำลังของกองทัพเรือที่มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.สัตหีบ นับเป็นกลไกสำคัญ และมีบทบาทในการขับเคลื่อนภารกิจของกองทัพเรือให้สำเร็จลุล่วง ตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ดำรงตำแหน่ง กำลังพลทุกนายได้รวมใจเป็นหนึ่งเดียวในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเทอย่างเต็มกำลังความสามารถ นำชื่อเสียงมาสู่กองทัพ และประเทศชาติ ส่งผลให้ภารกิจสำเร็จลุล่วงตามแนวนโยบายที่ตนได้ตั้งปณิธานไว้

โดยเฉพาะการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ภาคใต้ และภาคตะวันออก จึงขอขอบคุณทุกคน อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อมั่นว่าทุกคนจะร่วมกันสานต่อภาระหน้าที่ในความรับผิดชอบ เพื่อให้กองทัพเรือดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงแข็งแกร่ง เป็นปึกแผ่นเป็นที่พึ่งของประชาชนตลอดไป