xs
xsm
sm
md
lg

ผอ.รพ.กาฬสินธุ์เตือนภัยไข้เลือดออก รักษาไม่ทันถึงตาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายแพทย์สุธี  พิสิฐพยัต ผอ.รพ.กาฬสินธุ์ เตือนภัยประชาชนรับมือมหันตภัยโรคไข้เลือดออกระบาดหน้าฝนเดือนเดียวยอดสะสมพบผู้ป่วยแล้ว 159 ราย เน้นย้ำให้ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย  เพราะโรคไข้เลือดออกรักษาไม่ทันถึงชีวิต และยังตกเป็นผู้ป่วยได้ทุกช่วงอายุ
กาฬสินธุ์ - ผอ.โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ เตือนภัยประชาชนรับมือมหันตภัยโรคไข้เลือดออกระบาดหน้าฝน เดือนเดียวยอดสะสมพบผู้ป่วยแล้ว 159 ราย เน้นย้ำให้ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย เพราะโรคไข้เลือดออกรักษาไม่ทันถึงชีวิต และยังตกเป็นผู้ป่วยได้ทุกช่วงอายุ

วันนี้ (19 ก.ย.) นายแพทย์สุธี พิสิฐพยัต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ กล่าวถึงสถานการณ์ของโรคที่มากับฝน ซึ่งโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ได้ทำการเฝ้าระวัง 2 โรคร้ายที่สำคัญคือ โรคไข้ฉี่หนู ซึ่งเป็นโรคประจำถิ่นของจังหวัดกาฬสินธุ์ เพราะโรคไข้ฉี่หนูมักเกิดจากความเคยชินในกลุ่มเกษตรกรซึ่งขาดความระมัดระวังเดินลงพื้นที่นาด้วยเท้าเปล่า จึงเป็นสาเหตุของการเกิดโรค

และโรคไข้เลือดออก อีกหนึ่งปัญหาขณะนี้กำลังแพร่ระบาดในทุกพื้นที่ ซึ่งตัวเลขสะสมขณะนี้พบว่า ตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงปัจจุบัน สถิติผู้ป่วย 18 อำเภอ พบผู้ป่วยแล้ว 159 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็ก และที่น่าห่วงขณะนี้พบในกลุ่มผู้สูงอายุมากขึ้น

สถานการณ์ของโรคที่เกิดขึ้นกับน้ำฝน ยุงลายเป็นพาหะของโรคร้ายที่สำคัญ จึงขอเรียกร้องให้ประชาชนได้ช่วยกันทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ทำการคว่ำภาชนะที่ขังน้ำ และควรที่จะทำความสะอาดโอ่งน้ำ หรือปล่อยปลากินลูกน้ำ เนื่องจากโรคไข้เลือดออกมีความรุนแรง และมีระยะฟักตัวที่คล้ายกับโรคไข้หวัด ซึ่งหากมีอาการป่วยเป็นไข้ตัวร้อน ปวดกล้ามเนื้อ ปวดท้อง ภายใน 3-4 วัน รับประทานยาไม่หาย ให้รีบมาพบแพทย์เพื่อทำการเจาะเลือดเพื่อป้องกันและรีบทำการรักษาทันที

สำหรับปัญหาโรคไข้เลือดออกขณะนี้ โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ยังได้จัดหน่วยเฝ้าระวังโรคไข้เลือดออกเดินสายให้ความรู้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะการตรวจสอบจุดเกิดโรคที่ได้ร่วมกัน อสม.ประจำหมู่บ้านในแต่ละแห่ง ซึ่งประชาชนควรให้ความร่วมมือ และร่วมเฝ้าระวัง เนื่องจากความรุนแรงของโรคไข้เลือดออกยังไม่มียารักษา แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการร่วมกันทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในทุกสัปดาห์
กำลังโหลดความคิดเห็น