ศูนย์ข่าวศรีราชา - ทต.เกาะสีชัง ลงพื้นที่ดูเรือปูนซีเมนต์ล่ม วอนหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลผู้ประกอบการขนถ่ายสินค้าบริเวณหน้าเกาะสีชังให้เข้มงวด หลังเกิดปัญหามา 3 ครั้งแล้ว ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล เผยหากไม่มีมาตรการพร้อมจะดำเนินการฟ้องร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องละเว้น
จากกรณีเกิดเหตุเรือบรรทุกปูนอับปาง ชื่อ SP 45 ที่บริเวณแหลมงูห่างจากฝั่งเกาะสีชังประมาณ 100 เมตร นอกจากนั้น ยังมีเรืออีก 3 ลำ ชื่อ จากั้ว 14, จากั้ว 24 และ Sp 69 เกยอยู่บนหินโสโครก แต่ยังไม่จม
ล่าสุด นางพุฒิตา กสินโพธิ์ ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลตำบลเกาะสีชัง กล่าวว่า เหตุการณ์เรือจมครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ตั้งแต่เดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากปัญหาคลื่นลมในทะเล ที่สำคัญผู้ประกอบการเรือขนถ่ายสินค้าไม่ได้วางมาตรการดูแลเรือสินค้าของตนเองอย่างดี ทำให้เรือเกิดปัญหา และจมลงดังกล่าว
สำหรับสินค้าที่มีการขนถ่ายบริเวณหน้าเกาะสีชังนั้นส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ก่อให้เกิดมลพิษ เช่น ปูนซีเมนต์ ถ่านหิน แป้งมันสำปะหลัง โซดาแอส และปุ๋ย ซึ่งการขนถ่ายแต่ละครั้งมีฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ และหากเกิดเหตุการณ์เรือจมขึ้นมาก็จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศใต้ท้องทะเล ทำให้ทรัพยากรใต้ท้องทะเลเสียหายอย่างมาก เช่น ปะการังเสียหาย แหล่งอาหารของสัตว์ทะเล
นางพุฒิตา กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาเทศบาลฯ ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มประมงพื้นบ้านที่จับสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวไม่สามารถทำมาหากินได้ เนื่องจากระบบนิเวศเสียหาย
เรื่องดังกล่าว ทางเทศบาลฯ โดยนายดำรง เภตรา นายกเทศมนตรีตำบลเกาะสีชัง พยายามหาแนวทางในการช่วยเหลือ แต่ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาระดับประเทศ แต่ก็ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแลช่วยเหลือ เพราะเทศบาลฯ ไม่มีอำนาจหน้าที่เข้าไปดำเนินการในเรื่องนี้โดยตรง ดังนั้น หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงควรลงมาดูแล และวางมาตรการที่เข้มงวดมากกว่านี้
“ปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ลงมาดูแลตรวจสอบอย่างจริงจัง ทำให้ผู้ประกอบการเองก็ไม่ได้ใส่ใจต่อปัญหา หรือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างจริงจัง ดังนั้น หน่วยงานที่รับผิดชอบควรเข้มงวด และใส่ใจมากกว่านี้ และหากไม่มีการดำเนินการอย่างจริงจังหลังจากนี้ต่อไป ทางเทศบาลฯ อาจจะต้องดำเนินการต่อหน่วยงานดังกล่าวในเรื่องการละเว้น เนื่องจากไม่มาช่วยเหลือ หรือดูแลท้องทะเลบริเวณดังกล่าว เพื่อให้ระบบนิเวศบริเวณเกาะสีชังมีสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นกว่านี้” นางพุฒิตา กล่าว