ฉะเชิงเทรา - เกิดเหตุน้ำป่าซัดถล่มหมู่บ้านใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ทำให้ถนนเชื่อมหมู่บ้านถูกตัดขาด ประชาชนต้องใช้เส้นทางอ้อมไกลกว่า 20 กิโลเมตร เดินทางไปทำงานในช่วงเช้าที่ผ่านมา
ช่วงบ่ายวันนี้ (18 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อตรวจสอบเส้นทางเชื่อมหมู่บ้านคลองหนึ่งพื้นที่หมู่ 13 หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุน้ำป่าพัดถล่มหมู่บ้านคลองหนึ่งจนทำให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหาย
ส่วนเส้นทางสัญจรระหว่างหมู่บ้านคลองหนึ่ง และบ้านคลองสองถูกตัดขาด ทำให้ผู้ที่ต้องเดินทางเข้าไปทำงานในตัวอำเภอ และนิคมอุตสาหกรรมเกตุเวย์ซิตี้ ไม่สามารถใช้เส้นทางได้ และประชาชนต้องใช้เส้นทางอ้อมไกลกว่า 20 กิโลเมตร
โดยจากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า จุดเกิดเหตุมีลักษณะเป็นลำคลองที่เชื่อมต่อจากเขตป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก และอ่างเก็บน้ำสียัด ในอำเภอท่าตะเกียบ ขณะที่น้ำมีสภาพไหลเชี่ยวกราก ถนนตัดพาดผ่านข้ามลำคลองใต้พื้นถนนซึ่งมีช่องระบายน้ำก่อสร้างด้วยซีเมนต์ขนาดใหญ่กว้างประมาณ 6 เมตร ถูกน้ำไหลบ่าซัดจนขาดปลิวไปตามแรงดันของน้ำ ทำให้ถนนถูกน้ำซัดขาดเป็นระยะทางกว้างประมาณ 35 เมตร ลึกกว่า 4 เมตร
อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่มีชาวบ้านได้รับอันตรายจากน้ำป่าพัดถล่มหมู่บ้านแต่อย่างใด มีเพียงทรัพย์สินได้รับความเสียหายเพียงบางส่วนเท่านั้น
ช่วงบ่ายวันนี้ (18 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อตรวจสอบเส้นทางเชื่อมหมู่บ้านคลองหนึ่งพื้นที่หมู่ 13 หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุน้ำป่าพัดถล่มหมู่บ้านคลองหนึ่งจนทำให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหาย
ส่วนเส้นทางสัญจรระหว่างหมู่บ้านคลองหนึ่ง และบ้านคลองสองถูกตัดขาด ทำให้ผู้ที่ต้องเดินทางเข้าไปทำงานในตัวอำเภอ และนิคมอุตสาหกรรมเกตุเวย์ซิตี้ ไม่สามารถใช้เส้นทางได้ และประชาชนต้องใช้เส้นทางอ้อมไกลกว่า 20 กิโลเมตร
โดยจากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า จุดเกิดเหตุมีลักษณะเป็นลำคลองที่เชื่อมต่อจากเขตป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก และอ่างเก็บน้ำสียัด ในอำเภอท่าตะเกียบ ขณะที่น้ำมีสภาพไหลเชี่ยวกราก ถนนตัดพาดผ่านข้ามลำคลองใต้พื้นถนนซึ่งมีช่องระบายน้ำก่อสร้างด้วยซีเมนต์ขนาดใหญ่กว้างประมาณ 6 เมตร ถูกน้ำไหลบ่าซัดจนขาดปลิวไปตามแรงดันของน้ำ ทำให้ถนนถูกน้ำซัดขาดเป็นระยะทางกว้างประมาณ 35 เมตร ลึกกว่า 4 เมตร
อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่มีชาวบ้านได้รับอันตรายจากน้ำป่าพัดถล่มหมู่บ้านแต่อย่างใด มีเพียงทรัพย์สินได้รับความเสียหายเพียงบางส่วนเท่านั้น