หลายพื้นที่ในพัทยาถูกน้ำท่วมขัง ธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยเหลือ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - พัทยายังมีหลายพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขัง ธารน้ำใจเริ่มหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ชี้พัทยาน้ำท่วมซ้ำซากสาเหตุหลักคือ ภูมิประเทศ และปัญหาการรุกล้ำแนวคลองสาธารณะ ทำให้การระบายน้ำล่าช้า

จากสถานการณ์พายุดีเปรสชัน “หว่ามก๋อ” ฝนกระหน่ำติดต่อกันกว่า 5 ชั่วโมง ทำให้เกิดน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้างทั่วพื้นที่เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งหลังจากน้ำค่อยๆ ลดลง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (18 ก.ย.) นายวุฒิศักดิ์ เริ่มกิจการ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว รุดเข้าช่วยเหลือหมู่บ้านทุ่งตะวันทอง ซอยสุขุมวิทพัทยา 46 ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ฝนตกกระหน่ำน้ำท่วมสูงกว่า 1.30 เมตร จนมวลน้ำไหลทะลักเข้าบ้านเรือนจำนวนกว่า 40 หลัง ได้รับความเสียหายจำนวนมาก

นายวุฒิศักดิ์ เริ่มกิจการ รองนายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า เมืองพัทยาขณะนี้ระดับน้ำท่วมลดลงจนเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว แต่คงเหลือพื้นที่จุดนี้ยังคงมีน้ำท่วมสูงอยู่ เนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำ และเป็นซอยตัน น้ำจึงไม่สามารถระบายออกมาได้ จากการตรวจสอบทราบว่า มีทรัพย์สินข้าวของเครื่องใช้เสียหาย รถยนต์ และรถจักรยานยนต์เสียหายหลายสิบคัน ซึ่งยังมีชาวบ้านกว่า 100 ชีวิต รอให้การช่วยเหลืออยู่ภายในบ้านเนื่องจากไม่สามารถเดินทางออกจากบ้านได้

เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา และชาวพัทยาผู้ใจบุญร่วมกันจัดหาอาหาร และน้ำดื่ม พร้อมกับไปแจกจ่ายให้ชาวบ้าน โดยการใช้รถโฟร์วีล และพายเรือเข้าไป ส่วนทางเมืองพัทยาได้จัดหาเครื่องสูบน้ำ จำนวน 2 เครื่อง เพื่อใช้ระบายน้ำที่ท่วมขัง พร้อมกับมอบเรือยังชีพ จำนวน 2 ลำ เพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้ในการเดินทางเข้าไปยังบ้านพักของแต่ละคน ซึ่งคาดว่าหากฝนไม่ตกลงมาอีกประมาณ 1-2 วัน ระดับน้ำจะลดลงจนเข้าสู่สภาวะปกติ

สำหรับปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่เมืองพัทยา ที่ผ่านมาพบว่า เกิดขึ้นอย่างซ้ำซาก ทั้งนี้ เนื่องจากภูมิประเทศของเมืองพัทยามีลักษณะเป็นที่ลาดต่ำ ซึ่งรับน้ำที่ไหลบ่าจากฝั่งตะวันออกที่เป็นเขตชุมชนในหลายพื้นที่ทั้ง หนองปรือ โป่ง ตะเคียนเตี้ย หนองปลาไหล ห้วยใหญ่ ขณะที่การระบายน้ำในเขตเมืองพัทยานั้นก็ค่อนข้างหนาแน่นอยู่แล้ว จากส่วนของสถานประกอบการขนาดใหญ่และที่พักอาศัย รวมทั้งขนาดท่อระบายซึ่งมีอายุการใช้งานมานาน และขนาดเล็ก แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการจัดสร้างระบบรองรับน้ำเพื่อกันมวลน้ำจากฝั่งตะวันออกที่จะไหลเข้าสู่พื้นที่เมืองพัทยาแต่ก็ถือว่ายังไม่เพียงพอ

ขณะที่พื้นที่ชายหาดยังมีกรณีของการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ขวางทางน้ำ และพื้นที่ระบายสู่ชายหาดที่มีการจัดทำแนวฟุตปาธทางเท้าขวางเส้นทางของน้ำไว้ กระทั่งมีแผนในการก่อสร้างระบบระบายน้ำใหม่ในงบประมาณกว่า 190 ล้านบาท ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ขณะที่ความสามารถของการระบายน้ำในเขตเมืองพัทยานั้นจะสามารถรองรับปริมาณน้ำฝนได้ที่ 80 มม.ต่อ ชม.

แต่ปริมาณฝนจากฤทธิ์พายุ “หวามก๋อ” นั้น มีปริมาณสูงถึงกว่า 130 มม.ต่อ ชม. เมื่อผสมกับมวลน้ำจากฝั่งตะวันออก และทะเลหนุนจึงทำให้เกิดการท่วมขังอย่างรุนแรง

อย่างไรก็ตาม เมืองพัทยาก็ได้ทำการเปิดทางระบายน้ำใหม่ พร้อมมีแผนในการรื้อถอนทางเท้าฟุตปาธริมชายหาดเพื่อใช้เป็นทางระบายเพิ่ม รวมทั้งการแก้ไขปัญหาการรุกล้ำแนวคลองสาธารณะพัทยาใต้ จึงทำให้การระบายน้ำสามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ในระยะเวลาประมาณ 2-3 ชม.