สกลนคร - ผบก.สกลนคร เผยเร่งตามจับ 2 ผัวเมียยักยอกเงินกว่า 20 ล้านบาท แบงก์กสิกรไทย แต่งงแบงก์ผู้เสียหายกลับไม่ให้ความร่วมมือเต็มที่ ทำให้หาเบาะแสตามจับผู้ต้องหายากลำบาก ซ้ำงงผู้ต้องหาอดีตพนักงานแบงก์อายุ 24 ปี ทำงานได้แค่ 2 ปี วางใจให้รับผิดชอบเงินจำนวนมาก
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (17 ก.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรสกลนคร พล.ต.ต.พลศักดิ์ บรรจงศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) สกลนคร พ.ต.อ.ธวัชชัย หาญนที รอง ผบก.ภ.จว.สกลนคร ได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดทำงานสืบสวนเข้าพบเพื่อติดตามความคืบหน้าในคดีที่ น.ส.จุรีรัตน์ พิสุทธิ์ อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 63 ม.13 ต.หนองสนม อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร พนักงานธนาคารกสิกรไทย สาขาห้างโรบินสันสกลนคร ยักยอกเงินของธนาคารไปกว่า 20 ล้านบาท
โดยเหตุเกิดระหว่างวันที่ 2 มิ.ย.-29 ส.ค.58 รวม 23 ครั้ง เป็นเงินสด 15 ล้านบาท เงินสดหน้าเคาน์เตอร์อีก 5 ล้านกว่าบาท รวมเงินที่ทำการยักยอกไปทั้งหมด 20 กว่าล้านบาท โดยมีนายอานนท์ ฮั่วสุน อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 225 ม.3 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นสามีของ น.ส.จุรีรัตน์ พิสุทธิ์ และนายธนาคาร จารุวรพงษ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117/81 ม.13 ถนนสกล-กาฬสินธุ์ ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร อยู่ในขบวนการยักยอกทรัพย์ และทั้ง 3 คนถูกออกหมายจับ และสามารถจับนายธนาคาร จารุวรพงษ์ ซึ่งเป็นเพื่อนของ น.ส.จุรีรัตน์ พิสุทธิ์ ได้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการฝากขัง ส่วน น.ส.จุรีรัตน์ พิสุทธิ์ และนายอานนท์ ฮั่วสุน สองสามีภรรยายังหลบหนีอยู่
พล.ต.ต.พลศักดิ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนดำเนินการเข้าตรวจสอบภูมิลำเนาของ น.ส.จุรีรัตน เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม และตรวจสอบข้อมูลการโอนเงินพบว่า เส้นทางการโอนเงิน เงินทั้งหมดตอนนี้มีการนำออกจากระบบสถาบันการเงินแล้ว คาดว่าผู้ต้องหา 2 สามีภรรยา วางแผนเป็นอย่างดีเพื่อป้องกันการตรวจสอบ อาจนำเงินไปซุกซ่อนที่ใดสักแห่ง และพกเงินสดติดตัวใส่ประเป๋า 1-2 ล้านบาทเท่านั้น เพื่อการดำรงชีวิต คาดจะพยายามหลบหนีจนกว่าคดีจะหมดอายุความค่อยนำเงินออกมาใช้
พร้อมกันนี้ ตนยังได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสารสนเทศ ทำการตรวจสอบเฟซบุ๊กของ น.ส.จุรีรัตน์ พิสุทธิ์ (Jureerat Pisut) ซึ่งการโพสต์ข้อความ หรือภาพต่างๆ ถูกตั้งค่าเป็นสาธารณะ จะเห็นได้ว่าเฟซบุ๊กดังกล่าวมีการโพสต์ข้อความการออกมาเที่ยวเตร่ในสถานบันเทิง และโพสต์ข้อความในทำนองว่า การออกมาสังสรรค์เที่ยวเตร่เกิดจากการนอนไม่หลับ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พนักงานสาวรายนี้มีความวิตกกังวลในสิ่งที่ทำลงไป ขณะที่ทข้อความสุดท้ายโพสต์ลงวันที่ 30 ส.ค.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนถูกธนาคารจับได้ว่ายักยอกทรัพย์
“เจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเฟซบุ๊กเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพื่อนำมาเป็นเบาะแสสืบสวนไปถามบุคคลต่างๆ ที่รู้จักว่าจะสามารถหลบหนีไปที่ใด โดยขณะนี้มีตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ช่วยทำงานอีกทาง มีข้อมูลว่ากบดานอยู่ที่พัทยา”
พล.ต.ต.พลศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะไม่ค่อยได้รับความร่วมมือจากทางธนาคารผู้เสียหาย โดยมีประเด็นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัยว่า เพราะเหตุใดพนักงานรายนี้มีอายุงานเพียง 2 ปี และอายุเพียงเท่านี้ถึงได้เป็นผู้รับผิดชอบเงินของทางธนาคาร ข้อมูลที่ได้รับจากทางธนาคารมีน้อยมาก จึงมองว่าอาจมีปมอะไรมากกว่าคดียักยอกเงินธรรมดาหรือไม่ แต่ยังด่วนสรุปไม่ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม จากการเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินของ น.ส.จุรีรัตน์ ที่บ้านตามภูมิลำเนาทะเบียนบ้าน ได้อายัดรถยนต์ของผู้ต้องหาได้ 1 คัน ไว้ตรวจสอบก่อนว่า เป็นการได้มาในช่วงที่มีการยักยอกเงินหรือไม่