ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตำรวจขอนแก่นตามรวบตัวคนร้ายวัยรุ่นอายุ 15 ปี หลังเหิมก่อเหตุย่องเบาเข้าไปลักทรัพยภายในสถานกงสุลจีนประจำจังหวัดขอนแก่น ได้เครื่องคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก และเงินสด รวมมูลค่ากว่า 50,000 บาท
วันนี้ (16 ก.ย.) ที่ สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.นพดล เพ็ชร์สุทธิ์ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น แถลงผลการจับกุมตัวผู้ต้องหาลักทรัพย์ในสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำจังหวัดขอนแก่น ซึ่งตั้งอยู่ริมบึงแก่นนคร ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ชื่อนายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ชาวจังหวัดชัยภูมิ ส่วนเพื่อนร่วมแก๊งอีก 1 คน ซึ่งเป็นชายอายุไล่เลี่ยกันหลบหนีไปได้ โดยมีนายหลี่ หมิง กัง กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน และเจ้าหน้าที่ประจำสถานกงสุลฯ มาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลา 22.30 น. ได้มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ซึ่งเป็นเยาวชนมีอายุต่ำกว่า 20 ปี ลอบปีนกำแพงด้านหลังกงสุล ที่ทำการสถานกงสุลใหญ่ สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำจังหวัดขอนแก่น ริมบึงแก่นนคร ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยใช้วิธีหมอบคลานเข้าไป จากนั้นได้ถอดบานเกล็ดหน้าต่างเข้าไปภายในตัวอาคาร ลักเอาทรัพย์สินประกอบด้วย เงินสด จำนวน 5,000 บาท เครื่องคอมพิวเตอร์ และโน้ตบุ๊ก อย่างละ 1 เครื่อง รวมมูลค่า 50,000 บาท
ก่อนจะหลบหนีคนร้ายได้เปิดตู้เย็นกินของในตู้ มีขนม นมกล่อง และผลไม้กินจนอิ่มท้อง ก่อนหลบหนีไป โดยใช้เวลาก่อเหตุไม่นานเกินครึ่งชั่วโมง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ รปภ.ที่เฝ้าประจำการตลอด 24 ชั่วโมง เฝ้าอยู่หน้าอาคารไม่ได้เดินตรวจการในตัวอาคารจึงไม่ทราบเรื่อง จนกระทั่งรุ่งเช้า เจ้าหน้าที่ประจำสถานกงสุลฯ เข้ามาพบข้าวของในตู้เย็นถูกเปิดกิน ทิ้งกล่องนม และถุงเกลื่อนกลาด ข้าวของในห้องถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย ตรวจสอบพบมีทรัพย์สินหายไป จึงรายงานให้นายหลี่ หมิง กัง กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนทราบ ก่อนเข้าแจ้งความต่อตำรวจ
เบื้องต้น นายเอ ให้การรับสารภาพว่า เมื่อปี 57 เคยถูกจับกุมต้องโทษคดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ที่จังหวัดอุดรธานี และเคยก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายบุญมี พันธ์นอก อายุ 25 ปี จนถึงแก่ความตายที่บริเวณสวนเรืองแสง หน้าห้างเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น ก่อนชิงรถจักรยานยนต์ของผู้ตายหลบหนีไปกบดานอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี แล้วกลับมาร่วมกับนายบี ที่หลบหนีไปได้มาก่อเหตุลักทรัพย์ในสถานกงสุลจีนฯ แล้วหนีไปกบดานที่อุดรธานีอีก กระทั่งตำรวจสืบทราบตามไปจับกุมตัวนายเอ ได้คนเดียว โดยจะได้เร่งติดตามจับเพื่อนร่วมแก๊งที่หลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป